โพลหอการค้าชี้ประชาชนไม่เลือกคนจ่ายเงินซื้อเสียง ส่วนพรรคต้องมีนโยบายด้านคอรัปชั่น
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง “ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อนโยบายต่อต้านคอรัปชั่นของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทย ในการเลือกตั้ง 2566” พบว่า ปัญหาสำคัญของประเทศที่ต้องการแก้ไขมากที่สุดคือปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น รองลงมาคือการศึกษาและการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม
โดย ร้อยละ 67 มองนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชั่นของพรรคการเมืองและนักการเมืองมีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนในการเลือกตั้ง เพราะต้องการให้พรรคการเมืองมีความชัดเจนในการกำหนดนโยบายที่สามารถปฏิบัติได้จริง มีความโปร่งใสและสุจริตในการดำเนินงานสามารถตรวจสอบได้ ช่วยแก้ไขวัฒนธรรมการทุจริตคอรัปชั่นในทุกรูปแบบ
โดยอยากให้มีการกำหนดนโยบายต่อต้านคอร์รัปชั่นเป็นนโยบายหลักเพื่อผลในการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน และหากพรรคการเมืองใดไม่มีนโยบายในการต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 83.6 จะตัดสินใจไม่เลือกพรรคการเมืองนั้น รวมถึงหากนักการเมืองมีการใช้เงินซื้อเสียง ร้อยละ 86.2 จะตัดสินใจไม่เลือกนักการเมืองคนนั้นในการเลือกตั้ง เพราะถือว่าเป็นการทุจริตและไม่ซื่อสัตย์ตั้งแต่เริ่มต้นรวมถึงเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ผลการสำรวจสิ่งที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการแก้ไขอันดับหนึ่ง คือการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นรองลงมาคือการดูแลสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของประชาชน การเข้าถึงแหล่งทุน การดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม การดูแลราคาพลังงาน ปัญหาหนี้ครัวเรือน การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ย และการแพร่ระบาดของโควิด -19
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews