Home
|
เศรษฐกิจ

ต่างชาติโอนห้องชุดในไทยพุ่ง มูลค่าสูงสุดรอบ5ปี

Featured Image
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯ รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ไตรมาส 4 ปี 2565 มูลค่าการโอนเพิ่มขึ้น 95.8 % จากปี 2564 สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส

 

 

 

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 4 ปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 82.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันมา 5 ไตรมาสแล้วนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 ทั้งนี้มีปัจจัยบวกมาจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 ในนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ประเทศปี 2564 และมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วงกลางปี 2565 ส่งผลเชิงบวกต่อทำให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยชาวต่างชาติที่ได้กลับมารับโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดที่ทำสัญญาซื้อขายจากผู้ประกอบการในช่วงก่อนหน้า รวมถึงชาวต่างชาติที่ซื้อห้องชุดที่สร้างเสร็จและเหลือขาย ซึ่งส่งผลให้ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไตรมาส 4 ปี 2565 มีการขยายตัวขึ้นอย่างมากทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า

 

 

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 4 ปี 2565 โดยพบว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 3,780 หน่วย เพิ่มร้อยละ 82.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเชิงจำนวนหน่วยนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 และเป็นจำนวนหน่วยที่สูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2562 และยังมีจำนวนหน่วยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายไตรมาสในช่วง 2 ปี ที่เกิด COVID-19 (ปี 2563 – 2564) ร้อยละ 80.7 ที่มีจำนวน 2,092 หน่วย/ไตรมาส

 

 

สำหรับมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 19,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 95.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปี 2565 และเป็นมูลค่าที่สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2561 และยังเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ฯ ในช่วง 2 ปี ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีมูลค่าเพียงไตรมาสละ 9,979 ล้านบาท/ไตรมาส

 

 

 

ส่วนพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 170,942 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 85.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในเชิงจำนวนพื้นที่สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2561 และยังเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยการโอนกรรมสิทธิ์ฯในช่วง 2 ปี ที่มีการระบาดของ COVID-19 ที่มีพื้นที่เพียง 90,316 ตารางเมตร/ไตรมาส

 

 

หากพิจารณาในภาวะการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมในปี 2565 พบว่ามีจำนวน 11,561 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.0 รวมเป็นมูลค่า 59,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.2 โดยมีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์รวม 530,430 ตร.ม. เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้นน่าจะแสดงให้เห็นได้ว่า ตลาดห้องชุดคนต่างชาติในภาพรวมมีทิศทางที่น่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว และการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงก่อนหน้าได้มีการรับโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแรงซื้อใหม่จากชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ซื้อชาวจีน

 

 

สำหรับในไตรมาส 4 ปี 2565 ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด จะอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท โดยมีการโอนจำนวน 1,812 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.9 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด จำนวน 3,780 หน่วย รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีจำนวน 968 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.6 โดยอีกร้อยละ 20.7 เป็นระดับราคา 5.01 -10 ล้านบาท ประกอบด้วย ระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท มีจำนวน 440 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.6 ระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 345 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.1 และระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 215 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.7 ตามลำดับ ทั้งนี้พบว่า ห้องชุดราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน

 

 

ทั้งนี้ ในปี 2565 จะพบว่า ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนไปแล้วทั้งหมด 5,707 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 49.4 ของหน่วยทั้งหมด โดยมี 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 813 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.0 ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 542 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.7 สหราชอาณาจักร จำนวน 393 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.4 อับดับ 5 คือ ฝรั่งเศส จำนวน 351 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.0 ตามลำดับ

 

 

ส่วนจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 5,260 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.5 และชลบุรี จำนวน 3,567 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.9 ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึงร้อยละ 76.4 ของทั่วประเทศ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube