“กรุงไทย” เผย เงินบาทเช้านี้ อ่อนค่าลง คาดอยู่ในกรอบ 34.35-34.60 บาท/ดอลลาร์ จับตา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (18 เม.ย.) ที่ระดับ 34.49 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.38 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่าในช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทจะเคลื่อนไหวอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลง ทว่าในวันนี้ ก็มีโอกาสลุ้นเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งต้องรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนในช่วงเช้า และรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปในช่วงบ่าย
โดยในกรณีที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนออกมาดีกว่าคาดชัดเจน ก็อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดสะสมการลงทุนในสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia มากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในโซน EM Asia ก็มีโอกาสได้รับอานิสงส์จากภาพเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในกรณีนี้ เราคาดว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง แต่เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่าไปมากนัก โดยเรามองว่า ควรจับตาการแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน แถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ หากในช่วงบ่าย ตลาดกลับมาเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฝั่งยุโรปมากขึ้น ซึ่งอาจได้แรงหนุนจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีและยูโรโซนที่ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจช่วยส่งผลให้ เงินยูโร (EUR) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง กดดันให้เงินดอลาร์อ่อนค่าลงและหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนเงินบาทฝั่งแข็งค่ามากนัก เนื่องจากเรายังคงเห็นว่า นักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทย หรือยังคงทยอยขายบอนด์ระยะยาวอยู่ ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อจนแตะระดับ 2.00% เป็นอย่างน้อยได้
ในช่วงนี้ คงมองว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูงทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.35-34.60 บาท/ดอลลาร์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews