OR เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2566 มีกำไรสุทธิ 2,975 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100%
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ OR ในไตรมาสแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ จำนวน 2,975 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100% โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.25 บาท สำหรับ EBITDA ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 5,927 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,673 ล้านบาท หรือกว่า 100%
เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 โดยกลุ่มธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ฟื้นตัว โดยหลักจากน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน รวมทั้งปริมาณจำหน่ายและกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global ที่เพิ่มขึ้นจากภาพรวมกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการจำหน่ายและกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร โดยหลักจากประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มเล็กน้อยจากทั้งจากธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา OR ขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติจริง (OR in Action) โดยดำเนินการตามแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR หรือ OR SDG ผ่านหลากหลายกิจกรรม โดยในด้าน “S” หรือ “Small” มุ่งสร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก OR ได้จัดกิจกรรม “ตลาดเติมสุข” ที่จังหวัดสกลนคร ส่งเสริมร้านค้าชุมชนให้สร้างรายได้ พร้อมเติมเต็มความสุข
ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางชุมชนและความเป็นผู้นำสถานีบริการที่มุ่งช่วยเหลือชุมชน ของ พีทีที สเตชั่น และได้ร่วมกับ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ “กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน” และ “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ OR ในการสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเครื่องดื่มของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมยิ่งขึ้น ตามแนวทาง OR SDG ในด้าน “D” หรือ “DIVERSIFIED” มุ่งสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ OR ยังได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือด้านธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เพื่อร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางพลังงาน และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า และพัฒนาธุรกิจร่วมกัน และยังได้ร่วมแก้วิกฤติฝุ่น PM 2.5 โดยการจำหน่ายน้ำมันกำมะถันต่ำสูตรพิเศษที่มีค่ากำมะถันต่ำเฉลี่ยประมาณ 10 PPM ซึ่งต่ำกว่าค่าที่กฎหมายกำหนดถึงประมาณ 5 เท่า ที่ พีทีที สเตชั่น กว่า 400 สถานี
ซึ่งสอดคล้องกับ OR SDG ในด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutrality) ภายในปี 2030 อันจะนำไปสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Carbon Zero) ในปี 2050 อย่างยั่งยืน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews