กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ชี้ นักลงทุนไทยควรใช้โอกาสจากกฎหมายใหม่ ขยายลงทุนในกัมพูชา เชื่อมโยงไปตลาดอื่นๆ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจการค้าของกัมพูชา พบว่า กัมพูชามีแผนจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ได้เปิดเผยภายในงานสัมมนาทิศทางการค้าและโอกาสการลงทุนในกัมพูชา ปี 2566 ว่า ในปี 2566-2567 กัมพูชาตั้งเป้าให้เศรษฐกิจขยายตัว ร้อยละ 6-7 ผ่านการปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับ
อาทิ กฎหมายการลงทุน กฎหมายการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน และกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน พร้อมทั้งมีแผนจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในกัมพูชามากขึ้น โดยเฉพาะสาขาใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจหมุนเวียน และพลังงานสีเขียว
โดยปัจจุบันกัมพูชามี FTA กับอาเซียน 8 ฉบับ อาทิ อาเซียน-จีน อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลีใต้ และอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และมีความตกลงระดับทวิภาคี 2 ฉบับ คือ กัมพูชา-จีน และกัมพูชา-เกาหลีใต้ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2565 โดยล่าสุด กัมพูชาสามารถสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (CEPA) กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้แล้ว นอกจากนี้ กัมพูชายังแสดงความสนใจจะเปิดการเจรจา FTA กับอีกหลายประเทศ อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ อินเดีย ญี่ปุ่น และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย
อย่างไรก็ตาม การที่กัมพูชามีกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2564 เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถถือหุ้นได้ถึง 100% ซึ่งมีเงื่อนไขเช่นเดียวกับชาวกัมพูชา ยกเว้นเพียงการถือครองที่ดิน อีกทั้งกฎหมายใหม่ยังให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนที่เป็น SMEs โดยกัมพูชายังมีมาตรการยกเว้นภาษีประเภทต่างๆ ให้กับนักลงทุน
อาทิ สามารถเลือกการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 3 ถึง 9 ปี นับจากเวลาที่มีรายได้ครั้งแรก หรือเลือกการหักค่าเสื่อมราคาของรายจ่ายลงทุนที่เกิดขึ้นได้สูงสุด 200% เป็นเวลา 9 ปี และมีสิทธิ์ได้รับยกเว้นภาษีกำไร ภาษีส่งออก ภาษีนำเข้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องจักรกลในการผลิต รวมถึงภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก อีกทั้งยังได้ปรับปรุงระบบการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจให้สามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้
โดยการเร่งจัดทำ FTA กับคู่ค้าใหม่ๆ ตลอดจนการปรับปรุงกฎระเบียบและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการประกอบธุรกิจ เพื่อเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้กัมพูชาเป็นประเทศที่น่าจับตามองอีกครั้ง นับตั้งแต่ถูกสหภาพยุโรประงับสิทธิประโยชน์ทางภาษี (EBA) ในปี 2563 ประกอบกับมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 5-6 และตลาดแรงงานมีค่าจ้างยังไม่สูงนัก ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่และมีความนิยมในสินค้าไทย ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถเข้าไปลงทุนและใช้กัมพูชาเป็นประตูเชื่อมโยงไปยังตลาดอื่นๆ ได้อีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews