นักลงทุนอยากเห็นการเมืองที่มีเอกภาพเดินหน้าเลือกนายกฯตั้งรัฐบาลได้ ใช้เศรษฐกิจทำความมั่นคง
ในงานสัมมนา “วิกฤตมาทุกทิศ โอกาส มาทุกทาง” นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า ในระยะสั้นไม่ห่วงตลาดหุ้นไทยเพราะศักยภาพยังมีอยู่และสภาพคล่องสูง โดยคาดหวังว่าให้การจัดตั้งรัฐบาลสามารถทำได้อย่างราบรื่น และภายในไตรมาส 4 มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และในอนาคตจะมีการไหลเข้าของเงินทุนระยะยาวได้เอง ทำให้ประเทศไทยกลับมา เติบโตได้ร้อยละ 4-5 ในอนาคต โดยมีห่วงอย่างเดียว คือการเมืองจะต้องชัดเจน มีเอกภาพ และยิ่งได้รัฐบาลที่หน้าตาดีนโยบายดี จะยิ่งผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงตลาดหุ้นไทยเติบโตได้ดีตามไปด้วย และทำให้การลงทุนระยะยาวกลับมาได้ เมื่อมีนโยบายที่ดีจากรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็ม หลังจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน
แต่หากทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ระดับเดียวกันกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย เงินลงทุนระยะยาวจะเข้าและเงินสั้นจะยังคงอยู่แล้ว มั่นใจว่า ตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 1,630 จุด หากประเทศไทยจากนี้ไม่เกิดความวุ่นวาย ประเทศไทยจะไปได้
เวลานี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้องการการพัฒนาจะต้องเอาเศรษฐกิจนำความมั่นคง เมื่อเศรษฐกิจดีแล้วสภาพสังคมจะดีตามไปด้วย การลงทุนจากต่างประเทศก็จะเข้ามาอย่างอัตโนมัติ โดยนักลงทุนวันนี้ไม่ได้ต้องกำหนดว่าใครเป็นนายกฯ ใครเป็นรัฐบาล แต่ต้องการเห็นความเป็นเอกภาพ ไม่เกิดความวุ่นวาย ไม่เกิดการประท้วงลงถนน นโยบายเป็นมิตรกับเศรษฐกิจ เชื่อว่าทุกอย่างจะไปได้ เมื่อเศรษฐกิจไปได้โดยนโยบายที่ยั่งยืนจะสามารถขับเคลื่อนจ้างงานได้ด้วยตัวเอง โดยต้องแจกเงินอย่างเดียว นายจ้างจะสามารถขึ้นค่าแรงได้เองโดยไม่ต้องถูดบังคับปรับค่าแรงขั้นต่ำ
อย่างไรก็ตาม หากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองที่ทุกคนไม่อยากเห็น การเลือกนายกฯไม่สามารถทำได้ ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ต่างประเทศรอดู เพราะความไม่มั่นใจในนโยบายและรัฐบาลไทยจะทำให้การลงทุนสะดุดลง นักลงทุนมีทางเลือก ที่จะลงไปเล่นในตลาดอื่นแทนตลาดหุ้นไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews