พาณิชย์เผยต่างชาติแห่เข้าจัดประชุมฯ ที่ไทย ดันธุรกิจ MICE เติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้ ปี66 ทะลุ 5 หมื่นลบ. จาก 3.61 หมื่นลบ.ในปี65
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายลงตั้งแต่ต้นปี 2565 ส่งผลให้ภาคธุรกิจกลับมาประกอบธุรกิจอย่างจริงจังและคาดหวังผลประกอบการ ผลกำไรที่เป็นบวก โดยธุรกิจที่ได้ผลตอบรับและมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน คือ ธุรกิจจัดประชุม ฝึกอบรม แสดงสินค้า และคอนเสิร์ต หรือ ธุรกิจ MICE ที่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียทยอยเดินทางเข้ามาจัดประชุม ฝึกอบรม จัดงานแสดงสินค้า และจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากรายได้ปี 2565 ของธุรกิจฯ ที่มีรายได้รวมกว่า 3.61 หมื่นล้านบาท
เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการ พบว่ารายได้รวมของธุรกิจ ปี 2563 อยู่ที่ 3.11 หมื่นล้านบาท ขาดทุน 394 ล้านบาท ปี 2564 รายได้รวม 2.94 หมื่นล้านบาท ขาดทุน 357.18 ล้านบาท ปี 2565 รายได้รวม 3.61 หมื่นล้านบาท กำไร 1.28 พันล้านบาท และ ในปี 2566 ธุรกิจ MICE ยังคงได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง คาดว่า รายได้รวมอาจทะลุ 5 หมื่นล้านบาท
และจากสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจจัดประชุม ฝึกอบรม แสดงสินค้า และคอนเสิร์ต พบว่า ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้ง 559 ราย ทุนจดทะเบียน 704.48 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้ง 454 ราย ลดลง ร้อยละ 18.8 ทุน 668.83 ล้านบาท ปี 2565 จัดตั้ง 536 ราย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.07 ทุน 814.04 ล้านบาท และ ปี 2566 เดือนมกราคม – มิถุนายน จัดตั้ง 388 ราย ทุน 524.88 ล้านบาท โดยการลงทุนในธุรกิจส่วนใหญ่เป็นคนไทย มูลค่าการลงทุน 3.90 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 97.42 ของการลงทุนในธุรกิจทั้งหมด ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติสูงสุด คือ จีน มูลค่า 303 ล้านบาท รองลงมา คือ ญี่ปุ่น มูลค่า 209 ล้านบาทอเมริกา มูลค่า 81 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจจัดประชุม ฝึกอบรม แสดงสินค้า และคอนเสิร์ต เป็นธุรกิจที่ชาวต่างชาติสนใจเดินทางเข้ามาจัดงานฯ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เหตุมาจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ครบครัน มีสนามบินขนาดใหญ่ การคมนาคมที่สะดวกสบาย สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย และค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการท่องเที่ยวไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างเม็ดเงินทั้งจากคนในประเทศและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องได้รับผลดีไปด้วย เช่น ธุรกิจโรงแรม/ห้องพัก ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ธุรกิจและผู้ประกอบการรายเดิมที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้วจำเป็นต้องคำนึงถึงความพร้อมของธุรกิจและบุคลากรเป็นหลัก การจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพื่อความเป็นมืออาชีพในการจัดงาน การเลือกสถานที่จัดงานที่โดนใจลูกค้า พร้อมเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ฯลฯ ที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และมีจุดแข็งเหนือคู่แข่ง ที่สำคัญเมื่อการจัดงานสำเร็จเสร็จสิ้นลง ผลงานที่ออกมาโดนใจและบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ลูกค้ากำหนด จะส่งผลให้เกิดการใช้บริการซ้ำและเป็นลูกค้าประจำ และหากจะมีการจัดประชุม ฝึกอบรม แสดงสินค้า และคอนเสิร์ต ก็จะคิดถึงไทยเป็นประเทศแรกที่จะเลือกในการจัดงานครั้งต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews