นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจอาคาร SAT-1 เตรียมความพร้อมรองรับ ผู้โดยสารเดินทางมากขึ้น มั่นใจสนับสนุนการฟื้นของเศรษฐกิจ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมความพร้อมและติดตามความคืบหน้าการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมตรวจความพร้อม
ว่าการเปิดให้บริการดังกล่าว สำหรับ อาคาร SAT-1 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 สถาปัตยกรรมของตัวอาคารได้ออกแบบให้เข้ากับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) ซึ่งใช้เป็นระบบ Modular ที่ก่อสร้างได้รวดเร็วและใช้วัสดุที่ดูแลรักษาได้ง่าย อีกทั้งยังคำนึงถึงการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน
เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน โดยอาคาร SAT-1 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 216,000 ตารางเมตร ตัวอาคารมีความสูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ชั้น B2 เป็นพื้นที่สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover Station: APM Station) ชั้น B1 เป็นพื้นที่ห้องงานระบบ ชั้น G เป็นพื้นที่สำหรับระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ และพื้นที่สำนักงาน ชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเที่ยวบิน ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก
มีพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเป็นแบบ Open Gate และมีร้านค้าตลอดแนวทางเดิน และ ชั้น 4 เป็นพื้นที่สำหรับห้องรับรองสายการบิน อาคาร SAT – 1 มีหลุมจอดประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด สามารถจอดอากาศยานขนาด Code F ได้ 8 หลุมจอด และอากาศยานขนาด Code E ได้ 20 หลุมจอด อาคาร SAT-1 เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลัก โดยให้บริการรถไฟฟ้า APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับในการรับ – ส่งผู้โดยสาร ใช้ระยะเวลาในการโดยสารรวมถึงระยะเวลาที่ผู้โดยสารรอรับบริการที่สถานีประมาณ 3 นาทีและสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน
สำหรับการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งเป็นทางวิ่งที่มีความยาว 4,000 เมตร อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของสนามบิน โดยขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 73 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2566 และมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งจะทำให้ ท่าอากาศสว่านสุวรรณภูมิ มีประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิวันละ 150,000 คน
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการอาคาร SAT-1 ซึ่งได้กำหนดเปิดให้บริการแบบ Soft opening ในเดือนกันยายน 2566 นี้ และจะให้บริการควบคู่ไปกับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) รองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่มากขึ้น ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัย ประทับใจเมื่อใช้บริการและเมื่ออาคาร SAT-1 เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ จะเกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้บริการ ภาคประชาชน และภาคอุตสาหกรรมการบิน โดยนอกจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อมุ่งสู่การเป็นสนามบินชั้นนำระดับโลกอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกันพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และย้ำว่าไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว จึงต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงานจนประสบความสำเร็จโดยไม่แบ่งแยก
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมสนามบินสุวรรณภูมิกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ในเย็นวันนี้ที่จะเดินทางไปพรรคเพื่อไทยก็เพื่อจะพูดคุยหารือในเบื้องต้น แต่จะยังไม่ได้มีการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยเป็นการพูดคุยในรายละเอียดว่า หากจะมีการร่วมจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย ยังยืนยันจุดเดิมที่ว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมอยู่ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews