พณ.เผยความต้องการตลาดโลกลด,ดบ.สูงฉุดส่งออกกค.
พาณิชย์เผยความต้องการตลาดโลกลดลง,ดอกเบี้ยสูงฉุดส่งออกเดือน ก.ค. ลบ6.2%,7ด.-5.5% เชื่อระยะถัดจากนี้จะดีขึ้น
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการส่งออกของประเทศในช่วงเดือน กรกฎาคม 2566 ว่า การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 22,143.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 6.2 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัวร้อยละ 2.0 ผลของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกลดต่ำลงมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในยูเครน
ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องชะลอลงอย่างมาก ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในหลายภูมิภาค และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้การบริโภคชะลอตัว อีกทั้ง จีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกฟื้นตัวช้าลงจากกำลังซื้อในประเทศที่หดตัวจากการขาดความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
อย่างไรก็ดี จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านอาหารของโลก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอาหารเติบโตได้ดี โดยเฉพาะข้าว ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง และสุกรสด แช่เย็น แช่แข็ง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมของไทยมีสัญญาณที่ดีจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ยางรถยนต์ และเครื่องจักรกล ทั้งนี้ การส่งออกไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัวร้อยละ 5.5 และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัวร้อยละ 2.3
โดยการนำเข้า ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 24,121.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 11.1 ดุลการค้า ขาดดุล 1,977.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวม 7 เดือนแรกของปี 2566 การนำเข้า มีมูลค่า 171,598.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.7 ดุลการค้า 7 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุล 8,285.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
และสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ยางพารา หดตัวร้อยละ 37.8 หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 12.9 หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน น้ำตาลทราย หดตัวร้อยละ 30.3 หดตัวในรอบ 3 เดือน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 7.7 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน ไก่แปรรูป หดตัวร้อยละ 11.4 หดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ หดตัวร้อยละ 62.8 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน
สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมการส่งออกหดตัวร้อยละ 3.4 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน แต่ยังมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 24.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 40.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 29.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 21 เดือน รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 10.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน แต่ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน หดตัวร้อยละ 28.8 หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน
แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว การผลิตและการบริโภคชะลอลง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า และความผันผวนของค่าเงิน แต่คาดว่าฐานที่ต่ำในช่วงปลายปี ภาคบริการของประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัว และอานิสงส์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ทำให้คู่ค้าหันมานำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางตัวจากไทยทดแทนตลาดจีนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าในหมวดอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็น มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยหลายประเทศเพิ่มการนำเข้าเพื่อรักษาความมั่นคงทางด้านอาหาร และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในเส้นทางใหม่ผ่าน รถไฟไทย-ลาว-จีน จะช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews