หอการค้า เผย คนกลัวโควิด ฉุดดัชนีความเชื่อมั่น เม.ย. ต่ำสุดในรอบ 22 ปี 7 เดือนแตะ 46.0 หากยังคุมไม่ได้ ดิ่งได้อีก ชี้ รัฐบาลอัดมาตรการเศรษฐกิจ 2.4 แสนล้านบาท น้อยเกินไป
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนเมษายน 2564 พบว่า ดัชนีมีการปรับลดลงต่ำสุดในรอบ22ปี7เดือน มาอยู่ที่ระดับ 46.0 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19รอบที่3 ที่มีการขยายวงกว้างและยังไม่สามารถควบคุมได้ มีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสูง และการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีความล่าช้า ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวและขาดแรงกระตุ้น เศรษฐกิจอยู่ในช่วงเปราะบาง และหากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก
ในขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 40.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำอยู่ที่ระดับ 42.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 54.7 โดยเป็นดัชนีที่ปรับตัวลดลงทุกรายการ
“ธนวรรธน์” ชี้ รัฐบาลอัดมาตรการเศรษฐกิจ 2.4 แสนล้านบาท น้อยเกินไป ไม่พอกระตุ้น รอดูความชัดเจนพ.ค.ก่อนปรับตัวเลข อีกครั้ง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า มาตรการเยียวยาและลดผลกระทบ จากสถานการณ์โควิด-19 รอบที่ 3 ของรัฐบาล หากอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาทนั้น เวลานี้อาจน้อยเกินไปไม่เพียงพอในการพยุงเศรษฐกิจ เพราะมาตรฐานที่ออกมาบางอย่างไม่สามารถชดเชยความเสียหายของเศรษฐกิจได้ทันที ซึ่งไตรมาสที่ 2 ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจประมาณ 1 แสนล้านบาท ไม่เพียงพอกับเม็ดเงินที่หายไปจากกิจกรรมทางเศรษฐและการบริโภคของประชาชนที่ลดลงอย่างแน่นอน
โดยทางศูนย์พยากรณ์ฯจะรอดูความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาลอีกครั้งว่าแต่ละ มาตรการจะเริ่มดำเนินการในช่วงใด แล้วจะมีเม็ดเงินเข้ามาชดเชยในระบบเศรษฐกิจประมาณเท่าไหร่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และการฉีดวัคซีน เป็นไปได้ตามแผนหรือไม่ จึงจะสามารถประเมินได้ว่าเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้จะขยายตัวอยู่ในระดับใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
