ชาวเมียนมา นับร้อย รวมตัวหน้ายูเอ็น เรียกร้องช่วยเหลือ-ต่อต้านการยึดอำนาจในบ้านเกิด
กลุ่มผู้ชุมนุม ชาวเมียนมา กว่าร้อยคน รวมตัวบริเวณด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อยื่นหนังสือต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพเมียนมา ที่ยึดอำนาจจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สวมเสื้อสีขาว หมวกและผ้าโพกศีรษะสีแดง มีสัญลักษณ์เอ็นแอลดี ชูงธงประเทศเมียนมา รูปภาพและป้ายไวนิลนางอองซานซูจี โดยพบว่าผู้ชุมนุมสวมใส่หน้ากากอนามัยทั้งหมด ขณะที่บางรายสวมถุงมือยางด้วย
โดย นายไซ นักธุรกิจชาวเมียนมา ตัวแทนกลุ่มชุมนุม เปิดเผยว่า วันนี้ได้นัดหมายกันผ่านสื่อโซเชียลมายื่นหนังสือเรียกร้องถึงยูเอ็น เพื่อแสดงจุดยืนการต่อต้านรัฐประหารในประเทศบ้านเกิดของตนเอง และต้องการให้ยูเอ็นคุ้มครองความปลอดภัยของชาวเมียนมา ที่อยู่ในประเทศ พร้อมขอความช่วยเหลือในทุกด้านที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงชาวเมียนมาในประเทศที่ไม่อาจลุกขึ้นมาต่อสู้ตามท้องถนนได้ว่ายังมีพวกตนที่ร่วมต่อสู้อยู่เคียงข้างด้วยวิธีการที่สงบสันติ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจทหารที่สร้างปัญหาทางการเมืองมานานหลายปี และตนทราบดีว่าประเทศไทยมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เกี่ยวกับการป้องกันไวรัสโควิด-19 แต่พวกตนก็มีความจำเป็นที่ต้องออกมาแสดงจุดยืนการต่อต้านรัฐประหาร ยืนยันว่าจะพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างมากที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.นางเลิ้ง พร้อมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 30 นาย เข้าดูแลความเรียบร้อย พร้อมขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าชาวเมียนมากลุ่มนี้มาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคหรือไม่ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ยูเอ็นโดยตรง แต่ในฐานะตำรวจที่รับผิดชอบดูแลความเรียบร้อยของท้องที่จึงต้องเข้ามาจัดระเบียบและดูแลความสงบ
NLD เรียกร้องให้กองทัพเมียนมา ปล่อยตัว ผู้นำระดับสูงของรัฐบาล อองซานซูจี และ ส.ส.ของพรรคเอ็นแอลดี
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ออกแถลงการณ์ ภายหลังจาก กองทัพเมียนมา ได้ควบคุมตัวผู้นำระดับสูงของรัฐบาล รวมถึง นาง อองซานซูจี และ ส.ส.ของพรรคเอ็นแอลดี
โดย พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD เรียกร้องให้ปล่อยตัว นาง อองซานซูจี และผู้ที่ถูกควบคุมตัวรายอื่นๆด้วย นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้กองทัพ รับรู้ผลการเลือกตั้งทั่วไปปี 2020 ที่ได้รับยืนยันแล้ว พร้อมยังประณามการยึดอำนาจครั้งนี้ว่า เป็นรอยด่างของประวัติศาสตร์ของรัฐและเมียนมา
สำหรับอำนาจทั้งหมดภายใต้ พล.อ.อาวุโส มิ่น อ่อง หลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยจะยึดอำนาจเป็นเวลา 1 ปี โดยอ้างกระบวนการการประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นไปตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news