เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายปีของจีนในหลายเมือง ต่อต้านมาตรการล็อคดาวน์ คุมโควิด พร้อมเรียกร้อง “สี จิ้นผิง” ลาออก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ผู้ประท้วงชาวจีนจำนวนมาก และเกิดขึ้นในหลายเมือง ไม่พอใจมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 ที่เข้มงวด พร้อมกับเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงลาออก ซึ่งนับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี นับเป็นความท้าทายต่อต่อพรรคคอมมิวนิสต์
โดย วิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียของการชุมนุมที่นครเซี่ยงไฮ้ มีผู้ชุมนุมตะโกนประณามพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ผู้นำจีนลาออก ขณะเดียวกันรายงานระบุมีอย่างน้อย 8 เมืองที่ เจ้าหน้าที่พยายามปราบปรามการประท้วง และที่เซี่งไฮ้ ตำรวจที่ใช้สเปรย์พริกไทยขับไล่ผู้ประท้วง แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ผู้คนก็รวมตัวกันอีกครั้งในจุดเดิม จนตำรวจต้องสลายการชุมนุมอีกครั้ง และมีผู้ประท้วงหลายรายถูกจับกุมขึ้นรถบัสไป
สำหรับการประท้วง ซึ่งเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ หลังเหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัยในเมืองอุรุมชี ทำให้เกิดคลื่นของ “อารยะขัดขืน” และได้แพร่กระจายไปยังเมืองต่างๆ รวมทั้งใน ปักกิ่งและในเขตของมหาวิทยาลัยหลายสิบแห่ง เป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านพรรครัฐบาลที่แพร่หลายที่สุด
จีนยังคงเป็นประเทศใหญ่เพียงประเทศเดียวที่ยังคงพยายามหยุดการแพร่เชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีล็อคดาวน์ เพื่อระงับการแพร่ระบาดไปยังเมืองอื่นๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยบางเมืองทำการทดสอบไวรัสทุกวันกับผู้อยู่อาศัยหลายล้านคน
นโยบายดังกล่าวทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนต่ำกว่าสหรัฐฯ และประเทศสำคัญอื่นๆ แต่การยอมรับจากสาธารณชนกลับลดลง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews