ผู้ว่าโคราช คุมเข้มเรือนจำ หวั่นผู้ต้องขังติดโควิด-19 สั่งห้าม จนท.เรือนจำ 6 แห่งของจังหวัด ออกนอกพื้นที่ 14 วัน ยันไม่มีผู้ต้องขังติดเชื้อ
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมหารือถึงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใน เรือนจำ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดฯ และผู้บัญชาการเรือนจำ กับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ทั้ง 6 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ภายหลังจากที่พบผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานหลายแห่งในประเทศ ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก
ซึ่งหลังจากการหารือ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกคำสั่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำ ทั้ง 6 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ห้ามออกนอกพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาโดยเด็ดขาด เป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งได้แก่ เรือนจำกลางคลองไผ่ ,เรือนจำกลางสีคิ้ว ,เรือนจำกลางบัวใหญ่ ,ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา , ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกสีคิ้ว และเรือนจำกลางนครราชสีมา โดยให้มีการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19อย่างเคร่งครัด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ 18 – 31 พฤษภาคม 2564 แม้ว่าในเรือนจำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจะยังไม่พบมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19แต่อย่างใด แต่ทางจังหวัดได้เตรียมขอพระราชทานรถชีวนิรภัย มาดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แก่ผู้ต้องขังภายในเรือนจำทั้ง 6 แห่ง ซึ่งรวมมีผู้ต้องขังอยู่กว่า 2 หมื่นคน เพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด19
ทั้งนี้ ข้อมูลวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 8 ราย ตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ที่ อ.เมืองนครราชสีมา 7 ราย และที่ อ.ขามทะเลสอ 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 811 ราย พบใน 30 อำเภอจาก 32 อำเภอของจังหวัด ซึ่งรักษาหายเพิ่ม 26 ราย รวมหายป่วยสะสม 566 ราย ยังคงเหลือรักษาตัว 237 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม รวม 8 ราย
สำหรับยอดประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ใน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ขณะนี้มียอดจำนวนทั้งหมด 456,189 ราย คิดเป็น 59.87 เปอร์เซ็นต์ จากเป้าหมาย 8.6 แสนราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news