คลัสเตอร์ตลาดสี่มุมเมือง ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 42 ราย ทั้งแรงงานต่างด้าวและคนไทย
หลังจากที่มีข่าวมีป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก คลัสเตอร์ตลาดสี่มุมเมือง ทำให้ต้องสร้างโรงพยาบาลสนามในตลาดสี่มุมเมืองและทีมกู้ภัยเฉพาะกิจที่นำผู้ป่วยส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลต่างๆในจังปทุมธานี และโรงพยาบาลสนามในวันนี้ ทีมกู้ภัยเฉพาะกิจของมูลนิธิปอเต็กตึ้ง จังหวัดปทุมธานี ได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ภายในตลาดสี่มุมเมืองให้ไปรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด 42 คน ซึ่งมีทั้งแรงงานต่างด้าวและคนไทย ได้นำไปส่งที่โรงพยาบาลสนามภายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีทั้ง 30 คน เป็นแรงงานต่างด้าวทั้งหมด และส่งโรงพยาบาลลำลูกกา 5 คน เป็นคนไทย โรงพยาบาลธัญบุรี 5 คน เป็นคนไทย โรงพยาบาลคลองหลวง 2 คน เป็นไทย ซึ่งในการรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ้งทุกคนต้องสวมชุดppe และเครื่องป้องกันอย่างหนาแน่น
โดยตลาดสี่มุมเมือง ร่วมกับ จังหวัดปทุมธานี และสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี สร้างโรงพยาบาลสนามบุญรักษา เพื่อช่วยรองรับผู้ป่วย โควิด – 19 ที่ไม่มีอาการ ให้เข้ารับการรักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ด้วยจุดประสงค์เดียวคือ “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเราจะข้ามผ่านวิกฤตโควิดไปด้วยกันโรงพยาบาลสนามบุญรักษา ถูกสร้างตามมาตรฐาน รวมทั้งบริหารจัดการภายใต้การควบคุมดูแลของสาธารณสุขและทีมแพทย์ ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ว่างของตลาดเก่า ที่ไม่มีผู้ใช้งานแล้ว อยู่ห่างจากตลาดสี่มุมเมืองยุคใหม่ และอยู่ห่างจากอาคารโดยรอบตามมาตรการของสาธารณสุข มีรั้วกั้นเป็นสัดส่วน มีการจัดการเครื่องใช้ ดูแลซักล้าง กำจัดสิ่งปฏิกูลอยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาลฯ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไม่ให้ออกไปภายนอก โดยอาหารและของใช้ภายในโรงพยาบาลฯ มาจากการสนับสนุนของสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ตลาดสี่มุมเมือง และพ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดสี่มุมเมือง รวมถึงองค์กรและบุคคลภายนอกโรงพยาบาลสนามฯแห่งนี้ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลืออย่างดีจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี สาธารณสุขอำเภอ ลำลูกกา สามโคก ลาดหลุมแก้ว ศูนย์อนามัยที่ 4 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี และทีมคณะแพทย์จากโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news