เผารายวัน! โควิดคร่าชีวิตคนชราศพที่ 10 ของนครศรีฯ ขณะคลัสเตอร์ตลาดหัวอิฐโผล่ติดเชื้ออีก 11 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทีมเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือที่เรียกว่าทีมสก๊อต มูลนิธิไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง ได้เคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เป็นหญิงอายุ 72 ปี จากคลัสเตอร์ อบต.ท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 586 ของนครศรีธรรมราช และเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 10 ของจังหวัดเร่งทำการฌาปนกิจ ที่เมรุความร้อนสูงในวัดบุญนารอบ หลังจากผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิตลงในช่วงเย็นของวันเดียวกัน โดยแพทย์ระบุมีอาการโรคประจำตัวหลายโรคร่วมเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อในตลาดสดหัวอิฐ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช คลัสเตอร์แม่ค้าไก่สด และแม่ค้าเครื่องแกง เจ้าหน้าที่เร่งทำการสอบสวนโรคและกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอย่างรวดเร็วพื่อให้ทันกับการเคลื่อนไหวของผู้อยู่ในข่ายเสี่ยงสูง โดยล่าสุดนั้นพบเชื้อจากทั้งสองกลุ่มมากกว่า 30 รายแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 และ 20 พฤษภาคม ได้มีรายงานการพบเชื้อในคลัสเตอร์ตลาดหัวอิฐเพิ่มขึ้นทั้ง 2 วันอีกรวม 11 ราย
ขณะที่นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ระบุว่าการพบเชื้อในคลัสเตอร์นี้พบว่าได้หลุดออกไปวงนอกแล้ว 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่บัญชีสำนักงานบัญชีแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ารับการรักษาแล้วและมีผู้เข้าใช้บริการไม่มาก
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังระบุว่าขณะนี้พบการติดเชื้อเจ้าหน้าที่ในส่วนจำหน่ายอาหารสด ในห้างแห่งหนึ่งในอำเภอปากพนัง และในห้างตัวเมืองนครศรีธรรมราช อยู่ในแผนกอาหารสดซึ่งคณะกรรมการควบคุมโรคประจำอำเภอได้พิจารณาสั่งปิดไว้ก่อนแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ได้ขอแจ้งเตือนให้ผู้ที่ซื้ออาหารสดจำพวกเนื้อสัตว์นั้นหากมีการเลือกซื้อควรใช้ถุงมือและปรุงโดยใช้ความร้อนจะเพิ่มความปลอดภัยได้เนื่องจากเชื้อโควิด-19 สามารถอยู่ได้บนเนื้อสัตว์สดที่วางขายได้ นอกจากนั้นยังพบผู้ป่วยติดเชื้อในคลีนิกเสริมความงามซึ่งดูแลโดยแพทย์ โดยคลินิกนี้ได้ปิดตัวเองแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นคลินิกโดยแพทย์ที่มีความรู้ และไม่ห่วงว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่เนื่องจากสามารถติดตามได้จากเวชระเบียน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
