ผกก.สภ.ปักธงชัย ยอมรับการ์ดตกนั่งกินข้าวกับคนสนิทที่ติดเชื้อ ขณะที่ยอดโควิดเพิ่มอีก 22 ราย รวม 887 รายแล้ว
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยตัวเลขสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุด วันนี้ (22 พ.ค.64) พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายใหม่อีก 22 ราย โดยตรวจพบที่ อ.ประทาย 12 ราย อ.เมือง 7 ราย อ.ด่านขุนทด 1 ราย อ.โนนสูง 1 ราย และ อ.สีคิ้ว 1 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 887 ราย รักษาหายแล้ว จำนวน 652 ราย ยังรักษาอยู่ จำนวน 227 ราย เสียชีวิต 8 ราย
ขณะที่ ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ล่าสุด พ.ต.อ.ชนัตถ์ฯ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ศปก.สภ.ปักธงชัย ว่า “เป็นห่วงทุกนายมาก พยายามวางมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันโควิด แต่สุดท้ายก็เอาตัวไม่รอด พลาดตรงถอดหน้ากากกินข้าวกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดสนิทกัน ต่อไปต้องนั่งทานข้าวคนเดียว ห้ามนั่งร่วมโต๊ะ พรุ่งนี้จะมี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปทำความสะอาด สภ. และบ้านพัก ใครที่สัมผัสกับผม วันที่ 14-20 พ.ค.64 ในลักษณะไม่สวมแมสก์ หรืออยู่ใกล้ชิดกันนานๆ ให้มาตรวจนะครับ”
สสจ.โคราช ยัน กรณี ผกก.สภ.ปักธงชัย ติดเชื้อโควิดหลังจากจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้ว สามารถเกิดขึ้นได้
กรณี พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากเพื่อนสนิทภายหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้ว ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้ทุกภาคส่วนกำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดกันอย่างทั่วถึง แต่เมื่อเกิดข่าวผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 เข็ม ยังสามารถติดเชื้อได้อีก จึงทำให้ประชาชนที่ทราบข่าวต่างเกิดข้อสงสัยและไม่มั่นใจในการเข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้
ล่าสุด นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนไทม์ไลน์ของ พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย พบว่ามีการฉีดวัคซีนซิโนแวคไปเป็นเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 14 พ.ค.64 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกันได้ไปรับประทานอาหารกับคนสนิท ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ต่อมาได้ทราบข่าวว่าคนสนิทกับครอบครับติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ไปตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 และก็พบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ซึ่งกรณีการฉีดวัคซีนชิโนแวคไปในเข็มแรกนั้น ก็ยังสามารถติดเชื้อได้ เพราะภูมิคุ้นกันยังมีไม่มากนัก ภูมิคุ้มกันจะมีเพิ่มมากขึ้นก่อต่อเมื่อได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ผ่านไประยะหนึ่ง ประมาณ 4 สัปดาห์ไปแล้ว ดังนั้นกรณีของ ผกก.สภ.ปักธงชัย จึงสามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้จึงขอให้ประชาชนทำความเข้าใจว่า ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็อย่างเพิ่งการ์ดตก ควรมีการป้องกันอย่างเคร่งครัดเหมือนเดิม โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ใช้สเปรย์หรือเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ ไม่ควรไปรับประทานอาหารรวมกลุ่มกับใคร ไม่เข้าไปในพื้นที่แออัด แต่ถ้าจะเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่แออัด ก็ต้องเข้าไปด้วยความรวดเร็ว และมีการป้องกันตัวอย่างรัดกุมด้วย เพราะการฉีดวัคซีนนั้นก็ต้องใช้เวลาในการสร้างภูมิคุ้นกันอยู่หลายสัปดาห์
รวมพลังอสม. รณรงค์ชวนประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน พร้อมเดินเคาะกุฏินิมนต์พระสงฆ์ฉีดวัคซีนโควิด-19
ที่ศาลาวัดชัยสุนทร อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศิริศักดิ์ บุญไชยแสง สาธารณสุขอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ สจ.อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เขต 4 รองประธานสภาอบจ.กาฬสินธุ์ นายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ เลขานุการนายกอบจ.กาฬสินธุ์ นายนิราช สืบมา ประธาน อสม.อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับ อสม.ทั้ง 36 ชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ไปบอกต่อและรณรงค์รวมทั้งเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อย่างน้อยให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร
จากนั้นได้ลงพื้นที่เดินเท้าเข้าเคาะประตูบ้านและเคาะประตูกุฏิพระภายในวัดชัยสุนทร เพื่อสร้างความเข้าใจและกราบนิมนต์พระสงค์เข้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากพระต้องปฏิบัติกิจของสงฆ์ทั้งการออกบิณฑบาต และถูกนิมนต์ไปงานต่างๆ ซึ่งบางงานต้องใกล้ชิดกับญาติโยม นอกจากนี้นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้ระดมแรงกายแรงใจจากญาติสนิท มิตรสหาย รวมทั้งหน่วยงานต่างๆจัดกองทุนผ้าป่ามอบประกันภัยโควิด-19 ให้กับ อสม. เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ อสม.ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าอีกด้วย
ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ ชี้ คลัสเตอร์ติดจากจ.ประจวบฯ ลามติดทั้งครอบครัว ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย
สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเพชรบูรณ์ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ล่าสุดนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากการตรวจหาเชื้อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลการตรวจล่าสุดเพิ่งรับแจ้งเมื่อช่วงเช้านี่พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อยังเป็นคลัสเตอร์ที่ติดเชื้อมาจาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยลูกเดินทางมาจากจังหวัดประจวบฯ โดยนำเชื้อมาติดพ่อแม่และหลานๆโดยสรุปติดทั้งครอบครัวรวม 6 ราย แต่เนื่องจากที่อยู่อาศัยค่อนข้างอยู่ห่างหรือแยกจากชุมชน ทำให้มีผู้เสี่ยงสัมผัสค่อนข้างน้อย คลัสเตอร์นี้จึงไม่น่าจะมีปัญหาทางเจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะการสกัดกั้นไม่ไห้เชื้อแพร่กระจายออกไป
นายกฤษณ์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุของการติดเชื้อคลัสเตอร์นี้ ก็ยังเกี่ยวเนื่องกับการเดินทาง โดยมีความชัดเจนว่าผู้ติดเชื้อไปติดมาจากจังหวัดอื่น โดยเชื่อมั่นว่าตนเองไม่ได้รับเชื้อมา กระทั่งนำมาติดคนในครอบครัว ซึ่งเราพยายามแจ้งขอความร่วมมืองดการเดินทาง และเน้นการกักตัวอย่างจริง รวมทั้งออกมาตรการต่างๆเพื่อสกัดกั้นการกระจายเชื้อ แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืนหรือไม่ใส่ใจ จนทำให้การ์ดตกไม่ระแวดระวัง หากยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทางคณะกก.ควบคุมโรคจังหวัดฯคงอาจจำเป็นต้องยกระดับหรืออาจจะใช้ยาแรงกว่านี้ แต่ทั้งนี้ก็ยังคงไม่ถึงกับล็อกดาวน์จังหวัด หรือการงดเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งมาตราการตรงนี้คงจะไม่ทำ เพราะทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯและอำเภอ รวมทั้งทีมโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ร่วมกับทางเรือนจำจังหวัดฯและเรือนจำหญิงแคน้อย ได้มีการสุ่มตรวจเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มนักโทษชายและนักโทษหญิงหลายร้อยราย ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมโรงพยาบาลที่เรือนจำแคน้อยไว้เตรียมรับผู้ติดเชื้ออีกด้วย
เรือนจำเชียงใหม่ ติดโควิดเพิ่มอีก 2 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 3,985 ราย ยอดผู้รักษาหายแล้ว 307 ราย
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ รายงานข้อมูลสถานการณ์การระบาดภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ (26 เม.ย.- 28 พ.ค. 64) ว่า วันนี้เรือมจำกลางเชียงใหม่ตรวจพบมีผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 3,985 ราย โดยมียอดผู้ที่รักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 12 ราย รวมขณะนี้ยอดผู้รักษาหายแล้ว 307 ราย และยอดผู้ตรวจไม่พบเชื้อรวม 1,213 ราย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ ลดลง วันนี้มีผู้อยู่ระหว่างการรักษาทั้งสิ้น 3,575 ราย แยกรักษาตัวในแดนต่างๆ 3,459 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ 104 ราย แยกตามอาการเป็น ระดับสีเขียว 80 ราย สีเหลือ 22 ราย และสีส้ม 2 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ 12 ราย
ในช่วงควบคุมสถานการณ์การระบาดภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ (26 เม.ย.- 28 พ.ค. 64) ยอดการปล่อยตัวผู้ต้องขังถึงวันนี้ ปล่อยรวมแล้วทั้งสิ้น 103 ราย โดยมีผู้ต้องขังเข้ามาใหม่ 13 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ต้องขัง ณ วันที่ 22 พ.ค. 64 มีทั้งสิ้น 6,509 ราย ซึ่งยอดผู้ต้องขังที่ปล่อยตัวได้ส่งต่อไปกักตัวในสถานกักกันของรัฐในพื้นที่อำเภอแม่แตง รวม 58 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ 33 ราย และส่งให้หน่วยงานอื่น อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรต่างๆ ดำเนินการต่ออีก 12 ราย
สำหรับการบริหารผู้ที่อยู่ในสถานกักกันองรัฐฯ หรือ LQ อำเภอแม่แตงรายงานว่า วันนี้ผู้ที่ถูกส่งตัวมายัง LQ ยังคงจำนวนที่ 58 ราย แยกเป็นกักตัวใน LQ 12 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ 35 ราย และกลับภูมิลำเนาแล้ว 11 ราย
ปราจีนบุรีวันนี้พบติดเชื้อโควิดเพิ่ม 6 ราย สะสม 354 ราย โยงคลัสเตอร์ตลาดสี่มุมเมือง
นายแพทย์โชคชัย สาครพานิชนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประกาศ จังหวัดปราจีนบุรี แจ้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2564
รายละเอียด Timeline เบื้องต้น และสถานที่เสี่ยง ผู้ติดเชื้อ จำนวน 6 ราย รายที่ 349-354 สะสมรวม 354 ราย หากท่านใดสงสัยว่าสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 6 รายนี้ หรือไปสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ขอให้สังเกตอาการตนเอง หากท่านหรือผู้ใกล้ชิดท่าน มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ขอให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าหน้าที่ รพ.สต. หรือไป รพ.ใกล้บ้าน พร้อมทั้งแจ้งประวัติเสี่ยง กลุ่มคลัสเตอร์ผู้ป่วยจากบริษัทซีเอ็มเค.คอปเปอร์เรชั่น ประเทศไทยจำกัด และ แม่ค้าขายผักตลาดหน้าค่ายจักรพงษ์ รับสินค้ามาจากจากตลาดสี่มุมเมือง ล่าสุดวันนี้ ( 22 พ.ค.) เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ได้นำแม่ค้าตลาดหน้าค่านจักรพงษ์ อ.เมืองปราจีนบุรี ที่รับผัก-ผลไม้มาจากตลาดสี่มุมเมืองตรวจหาเชื้อโควิด-19 เร่งด่วนแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news