จังหวัดลพบุรีวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20 ราย จากคลัสเตอร์โรงงานไก่ จ.สระบุรี 18 ราย เร่งคุมสถานการณ์
ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดลพบุรี ระลอกการระบาดเดือนเมษายน 2564 พบผู้ป่วยเพิ่ม 20 ราย (รายที่ 285-304) เป็นเพศหญิง 9 ราย เพศชาย 11 ราย โดยผู้ป่วยอยู่ในอำเภอสระโบสถ์ 5 ราย อำเภอ บ้านหมี่ 2 ราย อำเภอเมืองลพบุรีและอำเภอท่าวุ้ง อำเภอละ 1 ราย อำเภอโคกสำโรง 8 ราย อำเภอชัยบาดาล 2 ราย และมาจากกรุงเทพมหานคร 1 ราย ผู้ป่วยทั้ง 20 รายแยกเป็นพนักงานคลัสเตอร์โรงงานและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงพนักงานคลัสเตอร์โรงงานรวม 18 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงของจังหวัดลพบุรี 1 ราย และมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงของกรุงเทพมหานคร 1 ราย ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพยาบาล สระโบสถ์ 5 ราย โรงพยาบาลบ้านหมี่ 2 ราย โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช 2 ราย โรงพยาบาลโคกสำโรง 3 ราย โรงพยาบาลหนองม่วง 5 ราย โรงพยาบาลชัยบาดาล 2 ราย และโรงพยาบาลลำสนธิ 1 ราย
ขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สูงสุดของจังหวัดลพบุรีคือที่อำเภอเมืองลพบุรี 161 ราย รองลงมา คือ อำเภอโคกสำโรง 33 ราย และอำเภอชัยบาดาล 18 ราย ส่วนอำเภอที่ไม่มีผู้ป่วย โควิด-19 คือ อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรีมีการส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในระลอกการระบาดเดือนเมษายน 2564 สะสม 5,145 ราย ไม่พบเชื้อ 4,660 ราย พบเชื้อ 304 ราย รอผลตรวจ 181 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 220 ราย ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 82 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย
ขณะที่ จำนวนผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรงงานไก่ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีทั้งพนักงานของบริษัท CPF และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของพนักงานของบริษัท CPF รวมทั้งมีผู้ติดเชื้อจากแคมป์คนงานก่อสร้างทางรถไฟคู่ขนาน ตำบลหนองทรายขาว อำเภอบ้านหมี่ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้เข้าสอบสวนโรคและกักตัวผู้เสี่ยงสูงทั้งหมดแล้ว จังหวัดลพบุรี จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงทั้งหมดกัก ณ ที่พักอาศัยและปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเข้มงวด หากไม่สามารถกักตัว ณ ที่พักอาศัยเนื่องจากมีผู้สูงอายุหรือเด็กอยู่ร่วมด้วย ขอให้ประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
