พังงาตรวจโควิดเชิงรุกชาวไทย-แรงงานต่างชาติ

สสจ.จังหวัด พังงา ร่วมกับอำเภอคุระบุรี ตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุกกลุ่มชาวไทยและแรงงานต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ร่วมกับทีม CDCU คุระบุรี ภายใต้การนำทีมของนายวิทยา ไล่สกุล สาธารณสุขอำเภอคุระบุรี เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุก ประชาชนทั้งในกลุ่มคนไทยและแรงงานพม่า ในชุมชนบ้านหินลาด ม.3 ต.คุระ อ.คุระบุรี

โดยในวันนี้คัดกรองเชิงรุกแบบ Rapid Antigen Test จำนวน 88 ราย พบผลเป็นลบทั้งหมด และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจแบบ PCR ณ แพปลา บ้านหินลาด จำนวน 12 ราย โดยจะทำการส่งตัวอย่าง PCR ณ โรงพยาบาลตะกั่วป่า ทั้งนี้ หากผลเป็นบวก และมีอาการ จะส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลตะกั่วป่า หากไม่มีอาการจะส่งไปรักษา ณ โรงพยาบาลสนามโชคอำนวย และโรงพยาบาลสนามบ้านเด็ก อำเภอคุระบุรี

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อจังหวัดพังงาวันนี้ เพิ่มขึ้นจำนวน 1 ราย เป็นหญิงพม่า 1 ราย อายุ 24 ปี อาชีพลูกจ้างแพปลา ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัว รวมผู้ป่วยสะสมจำนวน 212 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาหายแล้ว 68 ราย และกำลังรักษา 142 ราย รพ.ตะกั่วป่า 15 ราย รพ.พังงา 16 ราย รพ.คุระบุรีชัยพัฒน์ 4 ราย รพ.สนามคุระบุรี 100 ราย รพ.สนาม อบจ 5 ราย รพ.สนามตะกั่วป่า 2 ราย ทั้งนี้ สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงไปดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจและส่งกักตัว ณ Local Qualantine ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดหรือมีความกังวลให้ติดต่อสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านท่าน

ทางด้าน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกเมษายน 2564 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดในวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่อยู่อำเภอคุระบุรี เป็นหญิงแรงงานต่างด้าวอยู่ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี มียอดผู้ป่วยสะสม 212 ราย ส่วนผู้ป่วยในคลัสเตอร์ที่เดินทางมาจากโรงเรียนตะห์ฟีซุลกรุอานมัรกัส จ.ยะลา จำนวน 5 ราย และคนในครอบครัวติดเชื้อ 1ราย ให้มีการกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเดิม 14 วันเพิ่มเป็น 21 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากมีรายงานว่าเป็นการติดเชื้อเป็นสายพันธุ์เบตาแอฟริกา

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news