Home
|
ภูมิภาค

ส่งใจช่วย “คลัสเตอร์ฟันน้ำนม” ขอนแก่น

Featured Image
ธารน้ำใจหลั่งไหล ช่วย คลัสเตอร์ฟันน้ำนม ที่ รพ.ขอนแก่น และ รพ.ศรีนครินทร์ ต่อเนื่อง ขณะอาการเด็กๆยังคงทรงตัว พบครูมีไข้ 1 ราย ต้องแยกการรักษาออกจากเด็ก

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ รพ.ขอนแก่น ยังคงมีผู้มีจิตศรัทธา ทยอยกันนำสิ่งของมาบริจาค ให้กับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ในกลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กศรีสุข หรือที่เรียกกันว่า คลัสเตอร์ฟันน้ำนม ซึ่งอยู่ในการดูแลของ อบต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น

ซึ่งสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ได้แยกการรักษาผู้ป่วยทั้งหมดออกเป็น ที่ รพ.ขอนแก่น และ รพ.ศรีนครินทร์ ตามระบบการส่งต่อการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่

 

นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาทุกคนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ที่ทยอยส่งมอบกำลังใจ ให้กับผู้ป่วยเด็กและคณะครูทุกคน ที่ รพ.ขอนแก่น และ รพ.ศรีนครินทร์ โดยรับตัวมาทำการรักษาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ตาม ระบบการส่งต่อการรักษา

 

คลัสเตอร์ฟันน้ำนม ขอนแก่น

 

แยกเป็น รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำการรักษาผู้ป่วยที่เป็นครู 2 คน เด็ก 10 คน ขณะที่ รพ.ขอนแก่น ทำการรักษาผู้ป่วย ที่เป็นครู 6 คน และเด็ก 24 คน โดยอาการล่าสุดเช้าวันนี้ พบว่าครูที่รับการรักษาที่ รพ.ขอนแก่น มีไข้ 1 ราย ทีมแพทย์จึงแยกตัวทำการรักษาโดยเฉพาะ ขณะที่เด็กๆทุกคนนั้นไม่มีใครงอแง เชื่อฟังคำแนะนำของทีมแพทย์และพยาบาล ในขั้นตอนของการรักษาอย่างดี ทำกิจกรรมต่างๆ ตามขั้นตอนของการรักษาอย่างพร้อมเพรียง และที่สำคัญคือเด็กๆ ตื่นเต้นกับขนมและของเล่นใหม่ ที่ผู้ใจบุญนำมามอบให้อย่างมาก

คลัสเตอร์ฟันน้ำนมขอนแก่น-5

 

“ตลอดทั้งวันมีผู้ใจบุญนำขนม,นม, ของเล่น ,ผ้าอ้อมเด็ก, ขวดนม รวมไปถึงของใช้เด็กๆ มามอบให้กับ ทั้ง 2 รพ. ที่รับการรักษาผู้ป่วย จากกลุ่มคลัสเตอร์ดังกล่าว รวมทั้งสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ในการดำเนินงานด้านโควิด อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างขวัญกำลังใจให้กับ ผู้ป่วย และคณะทำงานได้อย่างมาก

ขณะเดียวกันอาการของผู้ป่วย จากกลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนั้นอาการทรงตัว ทีมแพทย์ทำการรักษาตามอาการ แต่ที่น่าห่วงวันนี้ คือ เด็กห่างจากบ้านเข้าสู่วันที่2 ซึ่งจะต้องคิดถึงบ้าน คิดถึงผู้ปกครองและอาจจะงอแงได้ จึงเตรียมพิจารณานำผู้ปกครองของเด็กๆ มาพบกับบุตร-หลาน แต่ต้องดำเนินการอย่างรัดกุม

เนื่องจากผู้ปกครองบางคนจัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วย บางคนจัดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง และบางกลุ่มอยู่ในกลุ่มกักตัว จึงจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ และบริหารจัดการเหตุการณ์ตามมาตรฐานความปลอดภัย ด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน”

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube