แยกครูคลัสเตอร์ฟันน้ำนม รักษาที่ห้องความดันลบหลังเจ้าตัวมีอาการไข้ ขณะที่ รมช.สธ. รุดมอบขนม-ของเล่น ให้กับเด็กๆ
รพ.ขอนแก่น นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ,นายจารึก เหล่าประเสริฐ รอง ผวจ.ขอนแก่น และ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่ม คลัสเตอร์ฟันน้ำนม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ที่ถูกส่งต่อการรักษาในระบบสาธารณสุขจาก รพ.สีชมพู มาที่ รพ.ขอนแก่น และ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยคณะฯได้มอบของเล่นและขนม พร้อมทั้งพูดคุยผ่านระบบโทรศัพท์ กับผู้ป่วยคือคณะครู ที่ป่วยติดเชื้อและดูแลผู้ป่วยเด็กทั้งหมด ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน เป็นกันเองและเสียงหัวเราะในช่วงของการสนทนาร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี ทีมแพทย์ คณะครู และเด็กๆอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ทีมแพทย์ได้ทำการแยกผู้ป่วยครู 1 ราย ที่มีอาการไข้ จากห้องความดันลบ ชั้น 1 อาคาร 10 รพ.ขอนแก่น ไปทำการรักษาที่ห้องความดันลบ อาคารผู้ป่วยโควิด ตามแผนการรักษาอย่างเข้มงวด
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการพูดคุยและตรวจติดตามอาการของผู้ป่วยในกลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่ถูกส่งต่อการรักษามาที่ รพ.ขอนแก่น แยกเป็นคุณครู 6 คนเด็ก 24 คนและที่ รพ.ศรีนครินทร์ แยกเป็นคุณครู 2 คน เด็ก 10 คน ซึ่งทุกคนอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีกำลังใจ และร่วมกิจกรรมต่างๆตามที่ทีมแพทย์กำหนด ซึ่งต้องขอชื่นชมทีมแพทย์ พยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ จากทุกภาคส่วนในการกำกับควบคุมดูแลของสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ที่ทำงานเป็นทีม มีการบริหารจัดการเหตุการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถรับมือได้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขอย่างมาก
“นอกจากทีมแพทย์พยาบาล ที่ทำการรักษาตามอาการของการป่วยของกลุ่มผู้ป่วยคลัสเตอร์ดังกล่าวนี้แล้ว ยังคงมีการส่งทีมจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยและทำกิจกรรมกับเด็กๆ ซึ่งยอมรับว่าผู้ป่วยที่เป็นครูนั้นมีอาการเครียด ซึ่งทีมจิตแพทย์ได้ประสานการทำงานร่วมกันกับทีมแพทย์หลักในการรักษาสภาพร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันๆขณะที่การเยี่ยมของผู้ปกครองของเด็กๆทุกคน รวมไปถึงคนในครอบครัวของคุณครูนั้น จะใช้ในระบบการเยี่ยมแบบออนไลน์ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ขณะที่ผลการตรวจเชื้อยืนยันชัดเจนว่า กลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขอนแก่น นั้นเป็นสายพันธุ์อังกฤษ อย่างชัดเจน”
รมช.สาธารณสุข กล่าวต่ออีกว่า แผนการบริหารจัดการวัคซีนในระดับพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศนั้นขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก อย่างกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นที่ขอนแก่นคือสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งการฉีดวัคซีนของประชาชนชาวขอนแก่นก็มีความคืบหน้าไปมาก ขณะที่สายพันธุ์แอฟริกานั้นยอมรับว่าดื้อยา และจากการตรวจติดตามการฉีดวัคซีนที่ขอนแก่นพบว่า จังหวัดมีการตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้กับชาวขอนแก่นร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมดหรือประมาณ 1.2 ล้านคน ขณะที่การฉีดวัคซีนขณะนี้ได้ประมาณ 60,000 คน เท่านั้น โดยมีปัญหามาจากการจัดสรรวัคซีน ได้รับมาน้อยมาก ดังนั้นในฐานะ รมช.สาธารณสุข จะเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในการจัดสรรวัคซีนให้กับ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ให้เพิ่มมากขึ้น ในกลุ่มขอจังหวัดที่มีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจากการฉีดวัคซีนในระดับพื้นที่ยังคงมีอยู่อย่างน้อยมาก ซึ่งเมื่อตนเองเสนอไปแล้วนั้น ศบค.จะพิจารณาออกมาอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับมติ ศบค.เป็นสำคัญ
“นอกจากทีมแพทย์พยาบาล ที่ทำการรักษาตามอาการของการป่วยของกลุ่มผู้ป่วยคลัสเตอร์ดังกล่าวนี้แล้ว ยังคงมีการส่งทีมจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยและทำกิจกรรมกับเด็กๆ ซึ่งยอมรับว่าผู้ป่วยที่เป็นครูนั้นมีอาการเครียด ซึ่งทีมจิตแพทย์ได้ประสานการทำงานร่วมกันกับทีมแพทย์หลักในการรักษาสภาพร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันๆขณะที่การเยี่ยมของผู้ปกครองของเด็กๆทุกคน รวมไปถึงคนในครอบครัวของคุณครูนั้น จะใช้ในระบบการเยี่ยมแบบออนไลน์ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ขณะที่ผลการตรวจเชื้อยืนยันชัดเจนว่า กลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขอนแก่น นั้นเป็นสายพันธุ์อังกฤษ อย่างชัดเจน”
รมช.สาธารณสุข กล่าวต่ออีกว่า แผนการบริหารจัดการวัคซีนในระดับพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศนั้นขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก อย่างกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นที่ขอนแก่นคือสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งการฉีดวัคซีนของประชาชนชาวขอนแก่นก็มีความคืบหน้าไปมาก ขณะที่สายพันธุ์แอฟริกานั้นยอมรับว่าดื้อยา และจากการตรวจติดตามการฉีดวัคซีนที่ขอนแก่นพบว่า จังหวัดมีการตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้กับชาวขอนแก่นร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมดหรือประมาณ 1.2 ล้านคน ขณะที่การฉีดวัคซีนขณะนี้ได้ประมาณ 60,000 คน เท่านั้น โดยมีปัญหามาจากการจัดสรรวัคซีน ได้รับมาน้อยมาก ดังนั้นในฐานะ รมช.สาธารณสุข จะเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในการจัดสรรวัคซีนให้กับ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ให้เพิ่มมากขึ้น ในกลุ่มขอจังหวัดที่มีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจากการฉีดวัคซีนในระดับพื้นที่ยังคงมีอยู่อย่างน้อยมาก ซึ่งเมื่อตนเองเสนอไปแล้วนั้น ศบค.จะพิจารณาออกมาอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับมติ ศบค.เป็นสำคัญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news