Home
|
ภูมิภาค

หลายจังหวัดพร้อมรับมือล็อกดาวน์-ปชช.แห่ซื้อของตุน

Featured Image
ชาวโคราช แห่ซื้อของอุปโภคบริโภคกักตุน หลังจังหวัดออกกฎเหล็กคุมเข้มการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19

ภายหลังจากที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการหารือในมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และในที่ประชุมมีมติเคาะมาตรการคุมเข้มออกมา 7 ข้อ อย่างคึกคัก อย่างเช่นที่ร้านมิลค์กะมอส ถนนเดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีประชาชนที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียง เดินทางมาเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นกักตุนไว้กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อสินค้า เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และของใช้ส่วนตัว ทำให้ทางร้านต้องสั่งสินค้าอุปโภคบริโภคมาเพิ่มสต๊อกที่ร้านหนึ่งเท่าตัว พร้อมกับจัดโปรโมชั่นสำหรับข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำมันพืช ไว้ที่บริเวณหน้าร้าน เพื่อให้ประชาชนเลือกสินค้าได้สะดวก ไม่ต้องเข้าไปแออัดภายในร้าน และเป็นการลดความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

จากการสอบถามนางสุภาพร เงินจัตุรัส อายุ 56 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะติดเชื้อ ดังนั้นจึงต้องมาซื้อของกักตุนไว้ โดยเฉพาะของกิน ของใช้ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำมันพืช ซึ่งจะซื้อตุนไว้ให้ใช้อยู่ได้อย่างน้อย 3 วัน เพราะไม่อยากออกมาข้างนอกบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ โชคดีที่ได้ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง จึงสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ตอนนี้ทุกคนพยายามป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้ออย่างสุดความสามารถ ภาครัฐออกมาตรการอะไรมา ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามทุกข้อ.

โคราชยอดติดเชื้อใหม่พุ่งอีก 79 ราย ตายเพิ่ม 2 ราย หอการค้าและภาคเอกชน ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ เสนอแนวทางช่วยเหลือเยียวยา

จ.นครราชสีมา ล่าสุดวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม จำนวน 79 ราย แยกเป็นรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 7 ราย, อ.ด่านขุนทด 16 ราย, อ.บัวใหญ่ 4 ราย, อ.บ้านเหลื่อม 4 ราย, อ.โชคชัย 3 ราย, อ.พิมาย 3 ราย, อ.ห้วยแถลง 1 ราย, อ.สีคิ้ว 3 ราย, อ.คง 2 ราย, อ.เทพารักษ์ 2 ราย, อ.โนนแดง 2 ราย, อ.โนนสูง 2 ราย, อ.พระทองคำ 2 ราย, อ.สูงเนิน 2 ราย, อ.เสิงสาง 2 ราย, อ.แก้งสนามนาง 1 ราย, อ.ขามสะแกแสง 1 ราย, อ.จักราช 1 ราย, อ.โนนไทย 1 ราย, อ.บัวลาย 1 ราย, อ.ประทาย 1 ราย, อ.ลำทะเมนชัย 1 ราย, อ.วังน้ำเขียว 1 ราย, อ.สีดา 1 ราย, อ.หนองบุญมาก 1 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่เดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อตรวจรักษา อีกจำนวน 14 ราย โดยมาจาก กทม. 7 ราย, จ.ปทุมธานี 1 ราย, จ.ราชบุรี 1 ราย, จ.ลพบุรี 1 ราย, จ.สมุทรปราการ 2 ราย, จ.สมุทรสาคร 1 ราย และ จ.อำนาจเจริญ 1 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 1,892 ราย รักษาหาย 1,091 ราย รักษาอยู่ 779 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีกวันนี้ 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 22 ราย

นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นตัวแทนหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ชมรมร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา สมาคม SME จังหวัดนครราชสีมา และชมรม Biz Club นครราชสีมา เข้ายื่นหนังสือถึงนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้รับหนังสือ ซึ่งทางหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้นำข้อเสนอของเสนอแนวทางปฏิบัติและมาตรการเยียวยา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจังหวัด

โดยข้อเสนอในทางปฏิบัติ 3 ข้อ ได้แก่ 1.งดการเดินทางข้ามจังหวัดเข้ามาในจังหวัดนครราชสีมา และงดการขนส่งรถสาธารณะ ยกเว้นการขนส่งสินค้าที่จำเป็น 2.ขอให้สถานประกอบการเปิดได้ตามปกติ โดยให้มีมาตรการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการตามมาตรฐานของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 3.เสนอให้เพิ่มจุดคัดกรองโควิดในจังหวัดให้มากขึ้น

และเสนอมาตรการเยียวยา 6 ข้อ ได้แก่

1.ขอลดค่าไฟฟ้าลง 20% ของทุกบิลเป็นเวลา 3 เดือน

2.งดการคิดดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้ง Bank กับ Non-Bank ทุกประเภทเป็นเวลา 3 เดือน

3.ลดเงินสมทบประกันสังคม ม.33 และ ม.39 ทั้งของนายจ้างและลูกจ้างเหลือ 1% เป็นเวลา 6 เดือน

4.ขอยืดระยะเวลาการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 10% จนถึงสิ้นปี 2566

5.ปรับลดอัตราเรียกเก็บภาษีท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการถึงสิ้นปี 2566

6.ขอยืดระยะเวลาการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีหัก ณ ที่จ่ายออกไปอีก 6 เดือน และแบ่งชำระในเดือนที่ 7 เป็นต้นไป.

หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดสงขลา เตรียมพร้อมรับมือมาตรการล็อกดาวน์ 14 วัน และมีแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกับของ ศบค.

บรรยากาศที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม ที่จะมีการใช้มาตรการ ล็อกดาวน์ ในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ เป็นเวลา 14 วัน

ขณะนี้หน่วยงานต่างๆได้เตรียมพร้อมรับมาตรการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะกรณีการห้ามออกนอกพื้นที่จังหวัดและห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่ 3 ทุ่มถึงตี 4 เช่นที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ตั้งเต็นท์ที่หน้า สภ.หาดใหญ่ เพื่อรองรับประชาชนที่มายื่นเรื่องขอเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดสงขลาในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ 14 วัน ซึ่งให้บริการประชาชนทุกวันและตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งส่วนราชการอื่นๆอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาโดยเฉพาะกลางคืน

โดยบรรยากาศที่ สภ.หาดใหญ่ ได้มีประชาชนมายื่นเรื่องขอเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดสงขลาต่อเนื่องมาตั้งแต่การล็อกดาวน์รอบแรกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมของมาตรการล็อกดาวน์ของทางจังหวัดสงขลาทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาได้มีมติแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกันแนวทางที่ศบค.ออกมาเช่นห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. รวมถึงมาตรการควบคุมร้านอาหารเครื่องดื่มเปิดถึง 20.00 น. ห้ามนั่งประทานที่ร้านทุกกรณีและมาตรการอื่นๆที่ ศบค. ออกมา

ผู้ประกอบการนราฯโอด! หลัง ศบค.สั่ง ล็อกดาวน์ ค้าขายชะงักแถมภาระหนี้สินพอกพูน วอนรัฐบาลเยียวยาด่วน

จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่ต้องควบคุมสูงสุดและเข้มงวดนั้น โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามบรรดาผู้ประกอบการร้านค้า พ่อค้าแม่ค้า ช่างเสริมสวยและสถาบันความงาม ที่ต่างโอดครวญเป็นเสียงเดียวกันว่า หยุดทำงานก็ไม่มีกิน ซ้ำภาระหนี้สินก็นับวันจะพอกพูนมากขึ้น

ทางด้าน น.ส.รูซียาตีมะห์ มุหะมะนุห์ อายุ 44 ปี แม่ค้าขายข้าวแกง ร้านกะมะห์ข้าวแกง ถ.สุริยะประดิษฐ์ อ.เมือง นราธิวาส เปิดเผยว่า ตนเองพอจะทราบมาตรการล็อกดาวน์จากโทรศัพท์มาแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ เพราะที่ผ่านมาจะมีหนังสือจากทางหน่วยงานมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบ ซึ่งตนเองนั้นมีผลกระทบมาก จากที่ไม่ให้นั่งกินในร้าน ต้องซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วไหนจะลูกน้องอีก ถามว่าทางรัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาในส่วนนี้ให้ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าบ้างหรือไม่

ขณะที่ นางสุพัตรา เรืองศักดิ์ อายุ 33 ปี แม่ค้าร้านเสริมสวยและร้านก๋วยเตี๋ยวโอ่งเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส กล่าวด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ไปกู้เงินมาทำร้านอาหารและร้านเสริมสวย พอเปิดร้านได้แค่เดือนเดียวก็เจอพิษโควิดรอบ 3 และต้องมาล็อกดาวน์อีก ตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะขาดรายได้ต่อวันที่ต้องหมุนกินหมุนใช้ และต้องรวบรวมจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ รวมทั้งหนี้สินอื่นๆ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นหนี้นอกระบบอีก ถ้าไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายยังคงเหมือนเดิม แล้วจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย แล้วต้องมาปิดร้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ตนต้องกินต้องใช้ ลูกก็ต้องเรียน รถก็ต้องส่ง หนี้ก็ต้องจ่าย ถ้าหยุดนิ่งอยู่กับบ้านจะเอาเงินไหนกิน เอาเงินไหนส่งหนี้ ภาระเยอะมาก อยากให้รัฐบาลมาช่วยเยียวยาด้านนี้ด้วย ลดค่าน้ำค่าไฟหรือไม่ก็ให้แบ่งจ่ายครึ่งหนึ่งก็ยังดี

ขนส่งเงียบเหงา บขส.หยุดเดินรถสายใต้ทุกเส้นทาง เริ่ม ปิดตลาด 14 แห่ง เมืองหาดใหญ่คุมโดวิด

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงาโดยเฉพาะเส้นทางขึ้นล่องหาดใหญ่-กรุงเทพฯ เนื่องจากในวันนี้ทางบริษัทขนส่งจำกัดหรือบขส.หยุดเดินรถเส้นทางภาคใต้ทุกเส้นทาง ไปจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม

รับมาตรการล็อกดาวน์ 14 วัน ที่จะเริ่มในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ และสงขลาเป็นหนึ่งใน 10 จังหวัด ที่จะมีการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตามในส่วนของขาขึ้นหาดใหญ่-กรุงเทพฯทางรถร่วมยังมีให้บริการวันละเที่ยวเวลา 15.30 น. ส่วนผู้ที่จองตั๋วกับบขส.สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน

นอกจากนี้ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 9 ก.ค.ถึง16 กรกฎาคมทางเทศบาลนครหาดใหญ่ประกาศปิดการตลาด 14 แห่ง ของอ.หาดใหญ่ ในย่านถนนรัถการเป็นเวลา 7 วัน เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วงเดือน มิถุนายน ถึง กรกฎาคม แล้ว 24 คน และเป็นการปิดตลาดในย่านนี้ พร้อมกันครั้งแรกของเมืองหาดใหญ่ซึ่งเป็นตลาดสดและย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหาดใหญ่

โดยตลาดทั้ง 14 แห่ง ประกอบด้วย 1. ตลาดสดพลาซ่า 1,2,3 ,2. ตลาดริมทางรถไฟ 3. ตลาดทัวร์รัถการ 4. ตลาดหมอถัด 5. ถนนประธานอุทิศ 6. ซอยนำดี 7. ซอยสังกะสี 8. ซอยแม่เทียบ 9. ซอยไทยพาณิชย์ 10. ถนนมนตรี 1 11. ถนนมนตรี 2 ,12. ถนนถัดอุทิศ 13. ถนนรัถการ เริ่มตั้งแต่หน้ามัสยิดปากีสถานหาดใหญ่ จนถึง แยกโรงแรมทัวร์ทั้ง 2 ฝั่ง และ 14.ถนนพูลสุวรรณ

พร้อมกับได้มีการตั้งกองอำนวยการร่วมทหารตำรวจฝ่ายปกครองและเทศบาลนครหาดใหญ่ดูแลความเรียบร้อยมาตรการป้องกันโควิด-19 ตลอด 7 วัน ที่ปิดตลาด

จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าบางรายบอกว่าได้รับผลกระทบเนื่องจากได้สั่งของมาแล้ว แต่ขายไม่ได้บางรายต้องไปหาตลาดในพื้นที่รอบนอกขายแทนเช่นพ่อค้าขายหอยบอกว่าต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการออกไปขายรอบนอกที่ยังเปิดเพื่อไม่ให้ของเน่าเสีย แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือ

สำหรับภาพรวมของสถานการณ์โควิด19ที่จ.สงขลายังคุมไม่อยู่และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันยอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายนพุ่งเป็น 6,304 คนแล้ว และเสียชีวิตสะสม 29 คน รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 4,554 คน และรักษาตัวในโรงพยาบาล 2,810 คน พื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคืออ.หาดใหญ่ 1,773 คน

ปราจีนบุรี พบโควิด-19 วันนี้ 57 ราย มาจากกลุ่มคลัสเตอร์ในจังหวัด ขณะ ผู้ว่าฯ สั่งการด่วน ขอประชาชนอยู่บ้าน ยกเว้นกรณีจำเป็น

น.พ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี แจ้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จำนวน 57 ราย เป็นผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 1,139 ราย ติดเชื้อนอกพื้นที่เข้ามารักษา 89 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1 รายติดเชื้อในเรือนจำ 3 ราย ทำให้จังหวัดปราจีนบุรี มีผู้ป่วยสะสม (ระลอกเมษายน 2564) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 10 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,232 ราย ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกรายผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงได้ติดตามตรวจหาเชื้อแล้วจังหวัดปราจีนบุรี ขอแจ้งประชาสัมพันธ์Timelineเบื้องต้นและสถานที่เสี่ยงของผู้ติดเชื้อ รายใหม่ 57 ราย เป็นกลุ่มคลัสเตอร์เก่าจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรี,คลัสเตอร์หอพุกลึโอ อ.กบินทร์บุรี,คลัสเตอร์บริษัทพีทีวี.,คลัสเตอร์ศาลเด็กและเยาวชน จ.ปราจีนบุรี,คลัสเตอร์ตลาดผลไม้หนองชะอม อ.เมืองปราจีนบุรี แลติดต่อในกลุ่มเครือญาติ – ผู้เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยง

พร้อมกันนี้นายวรพันธ์ สุวัณณุสส์ ผวจ.ปราจีนบุรี ได้มีประกาศจังหวัดปราจีนบุรีขอความร่วมมือประชาชน ให้ทุกคนอยู่ในที่พักของตนเอง ยกเว้นกรณีจำเป็น เช่น การซื้ออาหาร ไปพบแพทย์ซื้อยารักษาโรค ฉีดวัคซีน หรือเหตุจำเป็นอื่น ๆ ขอให้สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทั้งในและนอกบ้าน และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า ๒ เมตร ล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งระมัดระวังการติดเชื้อภายในครอบครัวหรือบุคคลใกลัชิตการซื้ออาหารจากร้านอาหารขอให้นำกลับไปรับประทานที่บ้าน และขอให้งดการจัดเลี้ยงหรือ การพบปะสังสรรค์ทั้งในบ้านและนอกบ้าน และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันงดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หลีกเลี่ยงการพบปะกับญาติ เพื่อน หรือบุคคลอื่น ๆที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube