Home
|
ภูมิภาค

กาฬสินธุ์ติดโควิดเพิ่ม66รายเปิดรพ.สนามแห่งที่3

Featured Image
กาฬสินธุ์ เปิดรพ.สนามแห่งที่สาม พบป่วยโควิดยังพุ่งสูงวันเดียว 66 ราย ติดเชื้อกลับจากกทม.และปริมณฑล

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ รศ.จิระพันธ์ ห้วยแสน อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นพ.สมานมิตร อัฐนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จ พร้อมด้วยทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกันเปิดโรงพยาบาลสนาม จ.กาฬสินธุ์ แห่งที่ 3 ซึ่งใช้หอประชุมอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พื้นที่นามน เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วย ที่อาการทุเลาลงแล้ว และสามารถดูแลตัวเอง เป็นการพักฟื้นเพื่อรอกลับบ้าน สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 120 เตียง มีการแบ่งโซนชัดเจนระหว่างผู้ป่วยชายและหญิง มีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ พร้อมสำหรับผู้ป่วย อีกทั้งมีบุคลากรทางการแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบดูแลผ่านกล้อง CCTV เพื่อลดการสัมผัส มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา และระบบทางเดินออกทางเดียว ลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากจะมีการเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นแล้ว ปัจจุบันยังได้ให้แต่ละอำเภอจัดตั้งโรงพยาบาลสนามไว้ทั้ง 18 อำเภอ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตำบล จัดสถานที่กักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอีกด้วย

ขณะที่ สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ (14 ก.ค.64) พบผู้ติดเชื้อนิวไฮ เป็นผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 66 ราย เป็นการพบผู้ติดเชื้อสูงสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยเป็นกลุ่มประชาชนหลากหลายอาชีพที่ติดเชื้อขอกลับมารักษาในภูมิลำเนา 12 ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอยู่ระหว่างการกักกันตัว 34 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากญาติในพื้นที่ 18 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 2 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.กาฬสินธุ์ พุ่งสูงถึง 676 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 429 ราย รักษาหายแล้ว 243 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 4 ราย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube