ศรีสะเกษยอดติดเชื้อโควิดวันนี้ทำนิวไฮ 125 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมร่วม 1,746 ราย ตายแล้ว 7 ราย
ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ยังคงมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มาเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนมากแล้วจะเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดอื่นมาตรวจพบเชื้อที่ จ.ศรีสะเกษ โดยศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อโควิดประจำวันที่ 19 ก.ค. 64 ว่า ในวันนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มจำนวน 125 ราย มียอดสะสม 1,746 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เสียชีวิตสะสม 7 ราย รักษาหายเพิ่มวันนี้ 42 ราย รักษาหายสะสม 752 ราย รักษาอยู่จำนวน 987 ราย ยอดผู้ที่ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้นแทบทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ โดย อ.ศรีรัตนะ มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดของ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 302 ราย รองลงมาคือ อ.กันทรลักษ์ 193 ราย อ.กันทรารมย์ 115 ราย และ อ.เมืองศรีสะเกษ 106 ราย ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มวันนี้ เป็นการติดเชื้อจากจังหวัดเสี่ยง จำนวน 93.6 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อภายในจังหวัด 6.4 เปอร์เซ็นต์
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อที่เสียชีวิตมีเพิ่มวันนี้ มีจำนวน 3 คน แยกเป็นเพศหญิง 2 รายและเพศชาย 1 ราย โดยรายแรกเป็นหญิงอายุ 64 ปี ชาวบ้านจาก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ป่วยเป็นไข้ไปพบแพทย์ที่ รพ.กันทรลักษ์แล้วพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ส่งตัวมายัง รพ.ศรีสะเกษ รักษาตัวนาน 14 วันทจึงเสียชีวิต รายที่ 2 เป็นเพศหญิง เช่นกัน เป็นชาว อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ซึ่งได้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ มีอาการไข้สูง ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ญาติได้นำมาตรวจที่ รพ.ศรีสะเกษพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 อาการหนักมาก แพทย์จึงได้นำเข้ารักษาตัวในห้อง ไอซียู และเสียชีวิตเมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันที่ 18 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา
ส่วนศพที่ 3 เป็นชาว อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นเพศชาย อายุ 50 ปี เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ กลับมาพักที่บ้าน มีอาการไข้สูง อ่อนเพลีย ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ญาติจึงได้นำไปพบแพทย์ที่ รพ.ไพรบึง เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 64 แพทย์ตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ส่งตัวต่อมายัง รพ.ศรีสะเกษ แพทย์ รพ.ศรีสะเกษ ได้ทำการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากอาการหนักมาก ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news