คลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่โคราชลามไม่หยุดติดเพิ่ม 8 ราย เป็นพนักงานสำนักการช่าง อบจ.เตรียมกักตัวกว่า 100 คน
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เริ่มรุนแรงขึ้นมาอีกระลอก ภายหลังจากที่เกิดคลัสเตอร์ใหญ่ จากโรงงานแปรรูปไก่ 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.โชคชัย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรวม 1,913 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ใน จ.นครราชสีมา วันนี้พุ่งสูงขึ้นถึง 600 คน และจากคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่ อ.โชคชัย ก็ได้มีผู้ติดเชื้อขยายวงกว้างสู่หลายชุมชน ล่าสุดวันนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ตรวจพบพนักงานในสำนักการช่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 ราย โดยมาจากคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่ อ.โชคชัย ทำให้ทางสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ต้องสั่งตรวจสวอปพนักงานในสำนักงานช่างทั้งหมดกว่า 300 คน เพื่อแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ และกักตัว 14 วัน เพื่อรอดูอาการเฝ้าระวังการติดเชื้อเพิ่ม
นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล รองนายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับเคสพนักงานสำนักการช่าง อบจ.นครราชสีมานี้ เกี่ยวโยงกับคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่ อ.โชคชัย โดยพนักงานคนดังกล่าว เป็นผู้หญิง ตำแหน่งธุรการช่าง ซึ่งเริ่มมีอาการตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวันที่ 19 ส.ค.64 จึงได้ขอหยุดพักดูอาการที่บ้าน ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านสวัสดิ์ ม.6 ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ต่อมาอาการไม่ดีขึ้นจึงเข้าตรวจสวอปที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ผลออกมาว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสามี ภรรยา ก่อนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จะตรวจพบพนักงานในสำนักการช่าง อบจ. ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย และสั่งตรวจคัดกรองพนักงานทั้งหมดกว่า 300 คน คัดกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ เพื่อทำการคัดแยกออกมากักตัว 14 วัน สำหรับกรณีนี้เนื่องจากในหมู่บ้านสวัสดิ์ ม.6 ต.หนองงูเหลือม พบพนักงานโรงงานแปรรูปไก่ อ.โชคชัย ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านติดเชื้อโควิด-19 และแพร่เชื้อในหมู่บ้านรวมกันประมาณ 10 คนแล้ว โดยครอบครัวของพนักงานสำนักการช่าง อบจ.ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จึงได้นำเชื้อมาติดเพื่อนร่วมงานอีก 7 คน รวมเป็น 8 คน ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
