4 อ่างเก็บน้ำใหญ่โคราช น้ำเกิน 85 เปอร์เซ็นต์ ชลประทานเร่งพร่องน้ำรับมวลน้ำก้อนใหม่ เตือนท้ายอ่างฯ เตรียมพร้อมรับมือ
นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่จ.นครราชสีมา มีปริมาตรน้ำอยู่ในระดับสูงทั้ง 4 อ่างฯ โดยอ่างเก็บน้ำลําตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาตรน้ำอยู่ที่ 273.18 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 86.86 % จากความจุกักเก็บ 277 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนอ่างเก็บน้ำลําพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาตรน้ำอยู่ที่ 135 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 87.10 % จากความจุกักเก็บ 267 ล้านลูกบาศก์เมตร ,อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาตรน้ำอยู่ที่ 135.80 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 96.31 % จากความจุกักเก็บ 221 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาตรน้ำอยู่ที่ 245 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 89.09 % จากความจุกักเก็บ 227 ล้านลูกบาศก์เมตร
ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 23 แห่ง มีปริมาตรน้ำกักเก็บล่าสุด เกิน 100% อยู่ 12 อ่างฯ และ 8 อ่างฯ น้ำเกิน 80 % ส่วนอีก 3 อ่าง มีน้ำไม่ถึง 80 % ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยหิน อ.เสิงสาง มีน้ำกักเก็บอยู่ที่ 62.46 % , อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง มีน้ำเหลืออยู่ที่ 39.75 % และอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน อ.ประทาย มีน้ำเหลือเพียง 16 % เท่านั้น แต่จากการรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่า วันนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะอากาศเช่นนี้จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนฟ้าคะนอง 40 %ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือ โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่พื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำลำมูล ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อ่างฯ หลักของจังหวัดที่เป็นต้นกำเนิดของลำน้ำมูล ให้เตรียมรับมือไว้ด้วย เนื่องจากสถานการณ์น้ำภายในอ่างเก็บน้ำมูลบน พุ่งสูงถึง 135.80 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 96.31% ซึ่งมากเกิน 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงได้เร่งระบายน้ำออกจากเขื่อน โดยวานนี้ระบายออกในอัตรา 9.857 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news