Home
|
ภูมิภาค

พิจิตรเกิดโรคคอบวมระบาดในโค-กระบือ

Featured Image
นอภ.วชิรบารมีและปศุสัตว์พิจิตรเร่งออกช่วยเกษตรกรที่ทำอาชีพปศุสัตว์เลี้ยงโค-กระบือ เหตุเกิดโรคระบาดที่มาในช่วงปลายฝนต้นหนา

นายสุวิทย์ชาติ นวมเพ็ชร นายอำเภอวชิรบารมี มอบหมายให้ นายกฤตชัย สุวรรณจินดา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.วชิรบารมี และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ที่นำโดย นายสัตวแพทย์ปราโมทย์ ค่ายชัยภูมิ รักษาราชการแทนปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ไปยังฟาร์มเลี้ยงกระบือของ นายชนม์ วิมล อายุ 65 ปี และนายสงวน วิมล อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/8 หมู่ 6 ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ซึ่งเกษตรกรทั้งสองรายเป็นครอบครัวเดียวกันที่เลี้ยงกระบือประมาณ 40 ตัว โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา กระบือของเกษตรกรที่เลี้ยงไว้จู่ๆก็ล้มตายลง 4 ตัว และล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ก็ตายอีก 1 ตัว เกษตรกรจึงช่วยกันนำซากกระบือที่เสียชีวิตทำการขุดหลุมฝังกลบเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ

โดย นายสัตวแพทย์ปราโมทย์ ค่ายชัยภูมิ รักษาราชการแทนปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร ให้ข้อมูลว่า โรคคอบวม (heamorhagic septicemai) ชึ่งเป็นโรคระบาดสัตว์ที่เกิดในโค-กระบือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบือจะมีความรุนแรงและพบบ่อยกว่าในโค สัตว์ที่ป่วยจะมีอาการคอบวม น้ำลายไหล หายใจลำบาก และทำให้ตายได้ในที่สุด สำหรับกระบือในฟาร์มแห่งนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการฉีดยารักษาโรคพร้อมกับคัดแยกกระบืออีก 10 ตัว ที่มีอาการป่วยให้แยกกันอยู่ เนื่องจากโรคดังกล่าวสามารถแพร่เชื้อติดกันได้ง่ายจากการสัมผัส จากน้ำลาย และจากแหล่งน้ำที่กระบือกินใช้ร่วมกันรวมถึงจากพาหะต่างๆได้อีกด้วย สำหรับในเขตพื้นที่อำเภอวชิรบารมีมีเกษตรกรเลี้ยงโค 881 ตัว เป็นเกษตรกร 73 ราย เลี้ยงกระบือ 3,695 ตัว เป็นเกษตรกร 197 ราย สำหรับพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงและจุดที่เลี้ยงกระบือมากที่สุดคือที่ หมู่ 13 บ้านทับเกวียนทอง ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี ซึ่งเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ซึ่งเป็นที่เลี้ยงกระบือที่ได้มาจากโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติหรือถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งมีประมาณ 400 ตัวโดยขณะนี้ฝ่ายปกครอง-ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรกำลังเร่งควบคุมโรคไม่ให้แพร่ระบาดหรือขยายเป็นวงกว้างแล้ว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube