ย่าวอนช่วยหลังหลานสาววัย 20ฉีดวัคซีนโควิดสูตรไขว้ ถูกตัดขา แล้วเสียชีวิต ที่ จ.พังงา
ที่บ้านนางห้าเหลี้ย กองแก้ว อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ม.1 บ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา จ.พังงา เป็นย่าของ น.ส.เกตุน์สิรี กองแก้ว อายุ 20 ปี ซึ่งฉีด วัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 วันที่ 22 ก.ค.64 ฉีด วัคซีน Astrazeneca เป็นสูตรไขว้เข็มที่ 2 วันที่ 13 ส.ค.64 หลังจากฉีดยาเข็มที่ 2 ประมาณ 3 วัน น.ส.เกตุน์สิรี มีอาการรู้สึกแน่นหน้าอก ผ่านไปอีก 2 วัน จึงพบแพทย์ แพทย์ ได้รับแจ้งว่าติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมานัดใน วันที่ 28 ส.ค.64 เข้าโรงพยาบาลพังงาวันแรก ช่วงเย็น น้องรู้สึกปวดขาเดินไม่ได้ชาไปหมด วันที่ 29 ส.ค.64 ช่วงเช้า โรงพยาบาลพังงาส่งตัวเข้าเอ็กซเรย์ที่ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี วันที่ 29 ส.ค.64 เวลา 23.00 น. ผ่าตัดขาครั้งแรกเพื่อเปิดเส้นเลือดที่อุดตัน วันที่ 30 ส.ค.64 โรงพยาบาลพังงา ส่งตัวรักษาต่อโรงพยาบาลกระบี่ พบหมอเฉพาะทาง เกี่ยวกับเส้นเลือด วันที่ 3 ก.ย.64 โรงพยาบาลกระบี่แจ้งว่าขาดีขึ้นส่งตัวกลับรักษาต่อโรงพยาบาลพังงา หมอโรงพยาบาลกระบี่นัดอีก 1เดือน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่ 30 ส.ค.64 ถึง 3 ก.ย.64 กระทั่ง วันที่ 13-14 ก.ย.64 โรงพยาบาลพังงา ส่งตัวรักษาต่อ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ฯ วันที่ 16 ก.ย.64 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ฯ แจ้งว่าน้องต้องตัดขา มีเนื้อตายเยอะ คืนวันที่ 22-23 ต.ค.64 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ฯ โทรมาแจ้งน้องต้องผ่าตัดสมอง เพราะมีเลือดออกในสมอง น้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน เช้าวันที่ 23 ต.ค.64 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ฯ แจ้งญาติน้องยังไม่ฟื้นไม่ตอบสนอง ใช้เครื่องช่วยหายใจ 100% วันที่ 24 ต.ค.64 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ฯ แจ้งให้ย่าและครอบครัวเดินทางมาพบที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ฯ วันที่ 25 ต.ค.64 น้องได้เสียชีวิต ทางย่าและครอบครัวได้นำร่างที่ไร้วิญญาณมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
โดยทาง นางห้าเหลี้ย ย่าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเข้าใจดีว่าหน่วยงานแต่ละหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ หลานรักคนนี้มาตลอดตั้งแต่เข้ารับการรักษา หลังจากนี้เมื่อไม่มีหลานรักแล้วตนเองก็ไม่มีใครให้พึ่งพา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news