Home
|
ภูมิภาค

สภ.เมืองโคราชโผล่ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก2

Featured Image
สภ.เมืองโคราช โผล่ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย ขณะคลัสเตอร์โรงงานผลิตเครื่องครัวเมลามีน พบแรงงานต่างชาติทยอยติดเชื้อเพิ่ม

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 70 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อกันเองในจังหวัด 67 ราย และติดเชื้อจากนอกจังหวัดอีก 3 ราย

ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมพุ่งเป็น 30,199 รายแล้ว แต่รักษาหาย 28,142 ราย ยังรักษาอยู่ 1,828 ราย มีเสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย โดยเป็นหญิง 2 ราย อายุ 85 ปี ชาว ต.ขามเฒ่า อ.โนนสูง กับหญิงอายุ 73 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา และอีกรายเป็นชาย อายุ 78 ปี ชาว ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน

ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนี้มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 229 ราย ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ ได้เร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 ลงให้ได้

โดยกลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไปทั้งจังหวัด จำนวน 2,152,381 ราย สามารถฉีดเข็ม 1 ไปได้แล้ว 1,336,847 ราย หรือคิดเป็น 63.11% ของเป้าหมาย ,ฉีดเข็ม 2 ได้ 1,065,910 ราย หรือ 49.52% และเข็ม 3 ฉีดได้ 89,293 ราย หรือ 4.15 % รวมฉีดไปแล้ว 2,492,050 โดส

ส่วนกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-18 ปี จำนวน 147,724 ราย สามารถฉีดเข็ม 1 ได้แล้ว 117,098 ราย หรือ 79.27 % ,เข็ม 2 ฉีดได้ 34,078 ราย หรือ 23.07 % รวมฉีดวัคซีนไปแล้ว 151,176 โดส

สำหรับคลัสเตอร์สำคัญที่ยังพบการระบาดต่อเนื่อง ต้องเร่งสกัดควบคุมการระบาดให้ได้โดยเร็ว ได้แก่1.คลัสเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งก่อนควบคุมโรค ระหว่างวันที่ 18-25 ตุลาคม 2564 พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดเชื้อโควิด19 จำนวน 11 ราย และเชื้อแพร่เป็นวง 2 มีครอบครัวตำรวจติดเชื้ออีก 14 ราย

ต่อมา สสจ.ได้เข้าดำเนินการควบคุมโรคตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา ด้วยการตรวจหาเชื้อเชิรุกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 114 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 57 ราย นักเรียนนายสิบ 57 ราย ซึ่งพบ ตำรวจติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ราย และนักเรียนนายสิบตำรวจติดเชื้อ 4 ราย นอกจากนี้ เชื้อยังแพร่ไปวง 2 ทำให้คนในครอบครัว ญาติ และเพื่อนติดเชื้อ อีก 7 ราย ซึ่งล่าสุด พบตำรวจติดเชื้อรายใหม่อีก 2 ราย

อยู่ระหว่างการกักตัว สรุปรวมคลัสเตอร์นี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดเชื้อ 22 ราย และครอบครัวตำรวจ ติดเชื้อ 21 ราย2.คลัสเตอร์ โรงงานศรีไทยซุปเปอร์แวร์ อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งมีแรงงานไทยอยู่จำนวน 690 คน และแรงงานต่างชาติอีก 250 คน

โดยเริ่มจากแรงงานชาวไทยเริ่มมีอาการระหว่างวันที่ 20-24 ตุลาคม 2564 และไปตรวจหาเชื้อ ผลตรวจเป็นบวกติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 7 ราย ต่อมา ตรวจแรงงานไทยพบติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 20 ราย ในขณะที่แรงงานต่างชาติในโรงงานก็เริ่มมีอาการ ทางโรงงานจึงส่งไปตรวจ พบติดเชื้อ 94 ราย และหลังจากตรวจเชิงรุก พบติดเชื้อเพิ่มอีก 41 ราย

ซึ่งล่าสุด พบกลุ่มแรงงานไทยติดเชื้ออีก 2 ราย ในขณะที่กลุ่มแรงงานต่างชาติ พบติดเชื้อเพิ่ม 11 ราย และเชื้อแพร่ทำให้ลูกของแรงงานต่างชาติ ติดเชื้อไปด้วย 3 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 178 ราย ซึ่งมีรายงานเพิ่มเติมว่า แรงงานต่างชาติทยอยเริ่มมีอาการป่วยเพิ่มขึ้น และยังรอผลตรวจ RT-PCR ยืนยันผลซ้ำในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นแรงงานไทย 40 ราย กับแรงงานต่างชาติอีก 7 ราย

ส่วนวงครอบครัว ยังไม่มีรายงานติดเชื้อเพิ่ม3.คลัสเตอร์ บ้านโคกเพชร ม.14 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งผู้ติดเชื้อรายแรกเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ บริษัท ศิริวิทย์-สแตนเลย์ จำกัด ต.โคกกรวด และเมื่อทีมสอบสวนโรคตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงสูงในชุมชน และในตลาดโคกเพชร พบผู้ติดเชื้ออีก 40 ราย

ซึ่งต่อมา ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 27 ราย ผลตรวจ ATK เป็นบวกพบเชื้อ อีก 3 ราย ได้ส่งตรวจPCR ยืนยันผลซ้ำ รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อ 68 รายแล้ว4.คลัสเตอร์ โรงงานลีเดอร์ อินดัสทรีส์ อ.สูงเนิน โดยรายแรกเป็นพนักงานของโรงงาน พักอยู่ที่ ม.14 ต.สูงเนิน ซึ่งอยู่ในกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ตลาดสดสูงเนิน และพนักงานรายนี้ ได้แพร่เชื้อโควิด 19 แพร่ให้กับภรรยา และเพื่อนพนักงาน ทำให้ติดเชื้อรวม 18 ราย

ซึ่งทีมสอบสวนโรค ได้ค้นหาเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพื่อส่งรักษาและนำเข้าสู่ระบบกักตัว พบเชื้อแพร่เป็นวง 2 มีพนักงานติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อ 21 ราย ทั้งนี้ ทางโรงงานได้จัดสถานที่กักตัวในโรงงาน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อในโรงงานแล้ว

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube