แรงงานเถื่อนเมียนมาทะลักเข้าแนวชายแดนไทย
พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทะลักเข้าไทยตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียอย่างต่อเนื่องล่าสุดจับได้อีก4คนในป่าสวนยาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซีย จ.สงขลา ยังคงพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนหลบหนีข้ามแดนเข้ามาจากประเทศมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดในวันนี้(12พ.ย.)พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ ฉก ร.5 พ.ต.ต สุริวงศ์ สมทรง ผบ ร้อย ตชด 437 นาย สุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา พร้อมกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 โดยรอย ร.5021ร่วมกับตม.6สงขลา,ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4304 ของตชด.437, ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา และตำรวจสภ.สะเดาซึ่งรับผิดชอบคุมพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียจับกุมแรงงานชาวเมียนมา ได้อีก4 คน เป็นชายทั้งหมด ซึ่งลักลอบข้ามแดนเข้ามาจากประเทศมาเลเซียผ่านทางรั้วชายแดนไทยมาเลเซีย บริเวณหลักเขตแดนที่ 21/13 บ้านไทยจังโหลน หมู่7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา และอยู่ในสภาพเปียกปอนเพราะฝนตกและทุกคนมีกระเป๋าสัมภาระติดตัวพร้อมเดินทางตลอดเวลาโดยมีนายหน้าในมาเลเซีย พามาส่งที่บริเวณริมรั้วชายแดนไทย และซ่อนตัวอยู่ในป่าสวนยางเพื่อรอคนมารับเดินทางต่อกลับประเทศเมียนมาโดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน
จากการตรวจสอบแรงงานทั้ง4คน ไม่มีเอกสารใดๆ โดยหนึ่งในแรงงานชาวเมียนมาที่พูดภาษาไทยบอกว่า พวกตนได้จ่ายเดินทางให้นายหน้าในมาเลเซีย คนละ 2000 ริงกิต หรือประมาณ 14,000บาทไทย เพื่อพามาส่งที่ชายแดนไทยเดินทางกลับบ้านเกิดที่รัฐยะไข่
หลังจากที่เข้าไปไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศมาเลเซียเป็นเวลา2 ปี จนกระทั่งพาสปอร์ตหมดอายุไม่สามารถทำงานต่อได้จึงตัดสินใจเดินทางกลับเมียนมาโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานชาวเมียนมาส่งไปให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจคัดกรองโรคและโควิด19 ก่อนที่จะนำส่งสภ.สะเดา ดำเนินคดี ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียขณะนี้พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาลักลอบเข้ามาจากมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้ฝ่ายปกครองอำเภอจะนะและตำรวจสภ.ควนมีด จับกุมได้24 คนขณะซ่อนตัวอยู่ในป่าหลังสุสานมุสลิมในพื้นที่บ้านตรับ หมู่9 ต.จะโหนง อ.จะนะ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news