โคราช ประกาศเปิดเมือง 7 อำเภอ เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ขณะ ผู้ว่าฯยัน มีมาตรการเข้มรับมือโอไมครอน
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมา ได้ออกคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 12047/2564 เรื่องมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) สำหรับพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ รองรับการเปิดเมือง เมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม 2564) เป็นวันแรก แต่การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไปตามระดับความรุนแรงของสถานการณ์โดยยังจำเป็นต้องคงไว้ซึ่งมาตรการสำหรับการดำเนินกิจกรรม กิจการต่างๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคม ให้ดำเนินไปควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างสมดุล เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติ
โดยให้ 7 อำเภอ เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา , เฉลิมพระเกียรติ ,โชคชัย , ปากช่อง ,พิมาย ,วังน้ำเขียว และอำเภอสีคิ้ว แต่จะต้องป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอยู่ภายใต้มาตรการที่กำหนด ทั้งเรื่องการจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมากในพื้นที่ ,การปิดพื้นที่เสี่ยง , การดำเนินมาตรการ DMHTTA , มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล Universal Prevention ,มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร COVID Free Setting รวมทั้ง กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ส่วนร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ ไม่เกิน 22.00 น. สามารถบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ แต่เฉพาะร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA+ แล้วเท่านั้น ซึ่งทางจังหวัดฯ จะจัดชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมฯ ออกตรวจตราอย่างเข้มงวด เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด
ส่วนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ขณะนี้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วกว่าร้อยละ 64 ซึ่งประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดเข็ม 1 ได้เร่งรัดทั้ง 32 อำเภอ รณรงค์กระตุ้นเตือนประชาชนให้ไปรับวัคซีนกันให้ครอบคลุมโดยเร็ว ส่วนไวรัสโควิด 19 กลายพันธุ์ “โอไมครอน” ทางจังหวัดฯ ได้มีการติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news