Home
|
ภูมิภาค

ผู้ว่าฯนครศรีฯห่วงเตือนปชช.ไม่ประมาทโอไมครอน

Featured Image
ผวจ.นครศรีธรรมราชห่วง เตือนประชาชนไม่ประมาทโอไมครอน ย้ำยกเลิกเคอร์ฟิวแต่ยังต้องปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดเคร่งครัด

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าในการประชุมครั้งนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ติดตามและให้ความสำคัญใน 3 ประเด็นหลักๆ คือ การติดตามสถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่พบมีการติดเชื้อในประเทศแล้ว 1 ราย ซึ่งมีความน่ากังวลเนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า และเมื่อติดเชื้อจะไม่มีการแสดงอาการ

 

ซึ่งในการสร้างความปลอดภัยนั้นทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม 3 มาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้ง DMHTT การปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล และการปฏิบัติตามมาตรการโควิดฟรีเซทติ้ง ขณะที่การบริหารสถานการณ์ในพื้นที่ตามโครงการคนคอนร่วมใจ สู้ภัยโควิด จากจำนวน 1,661 หมู่บ้าน/ชุมชน ทั้งจังหวัด มีหมู่บ้านไม่ติดเชื้อ จำนวน 1,434 หมู่บ้านชุมชน คิดเป็นร้อยละ 86.15 หมู่บ้านที่มีกลุ่มเสี่ยงต้องเฝ้าระวัง 72 หมู่บ้าน/ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 4.33 และหมู่บ้านพื้นที่ติดเชื้อ 158 หมู่บ้าน/ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 9.52

 

ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนนั้น ข้อมูล ณ วันนี้(7 ธ.ค.64) ในภาพรวมจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่แล้วจำนวน 1,134,665 คน คิดเป็นร้อยละ 73.24 โดยเป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 1,134,665 คน เข็ม 2 จำนวน 925,581 คน และเข็ม 3 จำนวน 74,509 คน อย่างไรก็ตามทางทีมสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเดินหน้าเพื่อเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มแก่กลุ่มเสี่ยง 608 รวมทั้งพลเมืองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่และต่างจังหวัด

 

ทั้งนี้เนื่องจากมีประชาชนชาวนครศรีธรรมราช จำนวนหนึ่งที่ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้วในจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้จะมีการยกเลิกเคอร์ฟิว แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการและคำสั่งต่างๆ ของจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างเคร่งครัด ทั้งในส่วนของการจัดงานและการจัดฝึกอบรมต่างๆ และขอให้ทุกคนถือปฏิบัติไม่ย่อหย่อน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ตัวเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคม

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube