สุวัจน์ฯ ลั่น พรรคชาติพัฒนาต้องคัมแบ็คกลับมายิ่งใหญ่เหมือนยุค “น้าชาติ” ให้ได้ จัดทีมพร้อมลุยศึกเลือกตั้งสมัยหน้า
จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2564 ขึ้น โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดการประชุม นายสุวัจน์กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมาก จากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ทำให้ที่ผ่านมาประเทศไทย ต้องกู้เงินมาอุ้มเศรษฐกิจกว่า 2.4 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว GDP ของประเทศปีที่แล้วก็ติดลบ 7% ปีนี้อาจจะติดลบ 1% นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคนก็ยังไม่มา การลงทุนก็ยังซบเซาเหมือนเดิม การว่างงานก็ยังมีมาก
แต่ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ก็เริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมที่เคยมีผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 27,000 คน ระยะนี้ลดลงเหลือวันละ 3,000 – 4,000 คน ก็ถือว่าตัวเลขเริ่มนิ่งแล้ว ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและนักท่องเที่ยว จึงสามารถเปิดประเทศได้ โดยช่วงหลังปีใหม่ไปแล้ว รัฐบาลก็ต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น
ดังนั้นตนเองจึงได้พูดกับสมาชิกพรรคทุกคนว่า ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ให้โฟกัสไปในเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจในภาคอีสาน จำเป็นต้องนำเทคโนโลยีใหม่มาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร เป็นนิวอีโคโนมี เพราะอีกไม่นาน จ.นครราชสีมา ก็จะมีรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อกับจีน ยุโรป และอเมริกาได้ สามารถส่งสินค้าเกษตรไปได้ทั่วโลกในอนาคต
พรรคชาติพัฒนา เคยได้ ส.ส.ถึง 60 คน ในยุคของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค การเมืองเขาวัดกันด้วยเสียงในรัฐสภา ถ้าเสียงน้อยพูดอะไรไปก็ไม่ค่อยได้ยิน ต้องมีเสียงมากพอสมควรจึงจะได้ยิน แต่ตอนนี้พรรคชาติพัฒนา มีแค่ 4 เสียงเท่านั้น ถือว่าเป็นพรรคขนาดเล็ก วันนี้พรรคชาติพัฒนาต้องพยายามคัมแบ็คกลับมาเป็นพรรคขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ให้ได้ เราเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีศัตรู ไม่ขัดแย้งกับใคร ในอดีตเราเคยได้ ส.ส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมามากถึง 15 คน วันนี้ก็ต้องทำให้ได้ วันนี้ต้องมาวางแผน กำหนดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้พรรคชาติพัฒนาสามารถคัมแบคกลับมายิ่งใหญ่ใน จ.นครราชสีมาเหมือนในอดีตให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news