ลพบุรี เรียกคืนเบี้ยคนแก่กว่า 10 รายมียอดชำระที่ต่างกันตั้งแต่ 4-9 หมื่นบาท
นายวรยุทธ เหล็กเพ็ชร์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าแค อ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บ้านของผู้สูงอายุที่ทางกรมบัญชีกลางได้ส่งหนังสือขอรับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นการรับเงินซ้ำซ้อนจากกรณีบุตร สามี ที่รับราชการแล้วเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้พบว่าในพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าแคมีอยู่จำนวน 10 ราย
นางลำไย บุญยัง อายุ 79 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 10 ต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี โดยเป็นผู้สูงอายุท่านหนึ่งที่ได้รับเงินผู้สูงอายุมาเป็นเวลา 19 ปี และรับเงินเดือนของสามีที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ได้มีการทวงเงินคืนก็ได้คืนให้ทั้งหมดเป็นยอดเงินกว่า 7 หมื่นบาท ซึ่งผู้สูงอายุรายนี้ได้นำเงินไปจ่ายคืนให้กับทางเทศบาลท่าแคครบจำนวนที่ได้รับแจ้งมา ทั้งนี้ ก็ยังมีผู้สูงอายุในพื้นที่ ต.ท่าแค ที่ผ่อนชำระเงินคืนให้กับทางกรมบัญชีกลางที่มียอดชำระที่ต่างกันตั้งแต่ 4-9 หมื่นบาทอีก 7 รายและรอให้ศาลสั่งอีก 2 ราย
ซึ่ง นางแสง สุขคุ้ม อายุ 98 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 1 ต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี เป็น 1 ใน 2 คน ที่ได้รับหมายศาลเรียกรับเงินคืนเป็นจำนวนเงิน 96,321.73 บาท โดยลูกสาวได้เปิดเผยว่ามารดาของตนได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนละ 300 บาท จนปัจจุบันได้รับเดือนละ 1 พันบาทรวมแล้ว 38 ปี ซึ่งมารดาได้รับเงินบำนาญตกทอดมาจากลูกชายที่เป็นอดีตข้าราชการทหารแล้วเสียชีวิตเดือนละ 1 หมื่นบาท โดยที่ในช่วงที่มีเจ้าหน้าที่มาสำรวจในการรับเบี้ยผู้สูงอายุมารดาของตนไม่เข้าใจในเรื่องของก็การรับเงินจากภาครัฐซ้ำซ้อนก็ตอบรับไป ทั้งนี้ก็คงจะต้องรอดูว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะจ่ายคืนหรือไม่ แต่ถ้าตอนนี้จะฟ้องก็คงต้องปล่อยให้ฟ้องไปแล้วแต่ว่าศาลจะสั่งดำเนินการอย่างไรเพราะเอกสารที่ส่งมาก็เป็นจำนวนมาก
ขณะที่นายวรยุทธเผยว่า ตั้งแต่ได้ส่งหนังสือไปให้ผู้สูงอายุทั้งหมดทราบแล้วก็ได้มีการทำความเข้าใจ โดยจะได้หาแนวทางในการให้การช่วยเหลือและดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดในเรื่องของการเรียกเงินคืน ซึ่งก็มีผู้ที่ผ่อนคืนเป็นรายเดือนในระยะเวลา 5 ปีโดยไม่คิดดอกเบี้ย สำหรับอีก 2 รายที่อยู่ระหว่างนัดเจรจาที่ชั้นศาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news