สคร.9 โคราช เตือนประชาชน 6 กลุ่มเสี่ยงเป็นฮีทสโตรก หากอยู่กลางแดดร้อนจัด อาจถึงตายได้
นายแพทย์สุเมธ องค์วรรณดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวเตือนพี่น้องประชาชนว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัด และมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้ป่วยเป็นโรคฮีทสโตรก (Heat stroke) หรือ โรคลมแดด ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้
โดยเฉพาะ 6 กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิน 40 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด เพ้อ กระสับกระส่าย มึนงง หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชักเกร็ง จนถึงช็อกและอาจเสียชีวิตได้
ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป มี 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น ออกกำลังกาย 2.เด็กเล็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว 3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง 4.ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก 5.ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ โดยร่างกายของคนอ้วนและผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จะตอบสนองต่อความร้อนที่ได้รับช้ากว่าปกติ 6.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม
แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิต
จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ระบายความร้อนได้ดี อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลดหรือเลี่ยงทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้งนานๆ สวมแว่นกันแดด กางร่ม สวมหมวกปีกกว้าง ดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวันเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำในร่างกายจากเหงื่อออก และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายควรเลือกทำในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมากนักและเป็นเวลาที่เหมาะสม โดยหากสงสัยว่า อาจมีอาการเจ็บป่วยจากภาวะอากาศร้อน ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยให้ดื่มน้ำเย็นและเช็ดตัวด้วยน้ำเย็น ให้อยู่ในที่ที่ระบายอากาศได้ดี ถ้ามีอาการรุนแรงหรือช็อกหมดสติ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews