พัทลุง พบผู้ติดเชื้อโควิดเหลือตัวเลขหลักเดียว เตรียมเปิดเมืองนำร่องท่องเที่ยวทันที ขณะฉีดวัคซีนเข็ม4แล้ว 6,340 โดส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง รอกระลอกล่าสุดที่เริ่มนับตั้งแต่เดือน มกราคม 2565 เป็นต้นมานั้น ช่วงแรก ๆ พบว่าทุกพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด – 19 ในแต่ละวันเป็นจำนวนมากบางวันพบผู้ป่วยถึงจำนวน 500 กว่าราย รวมยอดผู้ป่วยจำนวน 24,710 ราย แต่พอหลังจากเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมายอดผู้ป่วยติดเชื้อทั้งจังหวัดพัทลุงลดลงอย่างต่อเนื่อง และจากการรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดล่าสุด เมื่อวานนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด เพียงจำนวน 3 ราย จากผลการตรวจ RTPCR และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม
ขณะเดียวกันประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง ทุกเพศทุกวัย ยังเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกันโดยเฉพาะที่โรงพยาบาลพัทลุง ประชาชนยังเดินทางเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นจำนวนมาก แม้ว่าสถานการณ์โรคโควิด – 19 ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงได้เริ่มคลี่คลายไปแล้วก็ตาม ขณะวัคซีนเข็มที่ 3ทั้งจังหวัดพัทลุงฉีดไปแล้วจำนวน 123,132 โดส คิดเป็นร้อยละ 23.56 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 4 นั้น มีประชาชนเข้ารับวัคซีนไปแล้วจำนวน 6,340 โดส
นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อขอเปิดเมืองพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งทางจังหวัดพัทลุงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมนำร่องการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง และคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว และมอบหมายจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก.) ให้ดำเนินการพิจารณาความพร้อมในจังหวัดพัทลุง
โดยให้ผ่านความรับผิดชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และจัดทำข้อมูลตามมาตรการทางสาธารสุขและดำเนินแนวทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับพื้นที่ที่กำหนด เพื่อประโยชน์เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่นๆ โดยวันนี้จะพิจารณาการร่างมาตรการปฏิบัติในการเปิดรับนักท่องเที่ยว (Standard Operation Procedure : SOP)
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
