ผู้ประกอบการรถโดยสารโคราช 4 บริษัท จ่อลดเที่ยววิ่งลงอีก 50 เปอร์เซ็นต์ วอนรัฐเร่งปรับลดราคาน้ำมัน
นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทนครชัยทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากผลกระทบต่อเนื่องของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 รวมถึง ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แล้วยังมาเจอกับวิกฤติน้ำมันแพงอีก ทำให้บริษัทที่ประกอบกิจการรถโดยสารสาธารณะ ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก เดิมเคยปรับลดจำนวนเที่ยววิ่งลงแล้ว แต่เมื่อมาเจอวิกฤติน้ำแพง ก็ยิ่งทำให้แบกรับภาระไม่ไหว
4 บริษัท ที่ยังให้รถบัสโดยสารประจำทางระหว่างเมือง โดยเฉพาะสาย 21 นครราชสีมา-กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบัน มีรถบัสโดยสาร รวมกันกว่า 200 คัน จึงเร่งหารือกำหนดแนวทางการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและสอดคล้องกับโครงสร้างราคาน้ำมันที่ปับเพิ่มขึ้น
และจากการหารือเบื้องต้น คาดว่า ทั้ง 4 บริษัท จะมีการปรับลดเที่ยววิ่งรถบัสโดยสารลงอย่างน้อย 50% จากเดิมให้บริการวิ่งรถวันละ 70 เที่ยว หรือไปกลับ 140 เที่ยว จะปรับลดลงเหลือ 35 เที่ยว หรือไปกลับ 70 เที่ยว สาเหตุจากต้นทุนค่าน้ำมันที่สูงขึ้น และเฉลี่ยค่าน้ำมันไป-กลับ 4,000 บาท หากเที่ยวไหน มีผู้โดยสารน้อย ก็แทบจะไม่มีกำไร
ปัจจุบันแต่ละบริษัทให้บริการเฉลี่ย 50 นาทีต่อเที่ยวในช่วงกลางวัน บางบริษัทให้บริการเฉพาะเวลากลางวัน บางบริษัทเปิดบริการ 24 ชั่วโมง แต่ช่วงกลางคืนจะขยายเวลาเป็น 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว เพื่อประคับประคองไม่ให้ขาดทุนมากเกินไป
นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกกลาง ควรจะปฏิบัติตามตารางอัตราค่าโดยสารเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนราคาน้ำมันที่กำหนดเอาไว้ให้ถูกต้อง เช่น ควรจะมีการประชุมพิจารณาเป็นระยะๆ เอาต้นทุนต่างๆ มาใส่ในโครงสร้างที่มีอยู่ เพื่อคำนวณอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสมกับสถานการณ์แต่ละช่วง โดยไม่ต้องให้ผู้ประกอบการไปเรียกร้อง ขอให้เคลื่อนไหวให้ถูกต้องตามเกณฑ์และตามตารางที่กำหนดไว้
ซึ่งได้แจ้งแนวทางในเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกกลางแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบ ทำให้การประกอบการถดถอยไปเรื่อยๆ จำเป็นต้องลดเที่ยววิ่งลงอีก เพื่อให้เลือดไหลออกน้อยลง จะวิ่งรถเหลือแค่ประมาณ 20 % เท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews