Home
|
ภูมิภาค

ตร.เอาผิด2ข้อหาผอ.โรงเรียนชักปืนโชว์หน้าเสาธง

Featured Image
พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีเอาผิด ผอ.โรงเรียน ชักปืนโชว์หน้าเสาธง  2 ข้อหา คือกระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ รวมทั้งพกพาอาวุธ

ความคืบหน้ากรณี นายสายัณร์  อายุ 60 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียน ( ผอ.โรงเรียน ) ใน อ.เทพา จ.สงขลา เครียดชักปืนออกมาหน้าเสาธง  จากปัญหาส่วนตัว ที่มีความสัมพันธ์ กับนักเรียนหญิง ม.3 หลังจากที่ถูกแม่เด็ก ได้เข้าแจ้งความ กับ ตำรวจ สภ.เทพา

 

 

พร้อมกับได้ถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต16 เป็นการชั่วคราว ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ผอ.เขต สั่งย้ายช่วยราชการรอตั้งกรรมการสอบสวน เผยโทรมาปรับทุกข์

โดย นายศังกร รักชูชื่น ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 เผยว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทราบว่า เริ่มเป็นเรื่องขึ้นมานานราวสัปดาห์ ที่มีการพูดถึงพฤติกรรมระหว่างผู้อำนวยการโรงเรียน และเด็กนักเรียนหญิง ม.3 และในคืนก่อนเกิดเหตุ ทางผอ. ก็ได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อปรับทุกข์และบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนั้นตนกำลังติดภารกิจอยู่ที่ จ.สตูล

ซึ่งทาง ผอ. ก็พูดในลักษณะคล้ายกับการจะสั่งลา แต่ตนก็บอกให้ตั้งสติให้ และทุกปัญหามีทางออก ขอให้ใช้วิธีที่ถูก ที่ควร และการคิดสั้นก็เป็นสิ่งที่ผิดตามหลักศาสนาด้วย ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ ผอ. คนดังกล่าว ย้ายไปช่วยราชการเอาไว้ก่อนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป

ทางด้าน แม่ของเด็ก ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า จากการพูดคุยกับลูกสาว บอกว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับ ผอ. คนนี้จริง และหลายครั้ง หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นที่บ้านพัก ผอ. ภายในโรงเรียน ซึ่งความสัมพันธ์เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และลูกสาวก็บอกว่าชอบพอกับผอ. จากความใกล้ชิด และที่ผ่านมา ผอ. ยังเงินใช้ด้วย

โดยเมื่อวานนี้ตนได้เข้าไปพูดคุยกับ ผอ. คนนี้ที่โรงเรียนแล้ว เพื่อสอบความข้อเท็จจริง แต่ ผอ. ก็ปฏิเสธตลอด ว่า ไม่ได้มีอะไรกันซึ่งสวนกับที่ลูกสาวบอก และที่ไปพบก็เพื่อที่จะให้ ผอ. แสดงความรับผิดชอบ โดยให้ลาออกจากการเป็น ผอ. และให้ออกไปจากพื้นที่เท่านั้น ไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงิน หรือค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น แต่ ผอ. กลับปฏิเสธไม่ยอมรับ

ตนจึงต้องเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุดโดยไม่ยอมความ ส่วนลูกสาว ตอนนี้ให้หยุดเรียนไปก่อนชั่วคราว เพราะสภาพจิตใจยังไม่ปกติ

 

สภ.เทพา

 

ล่าสุดในส่วนของความคืบหน้า ด้านคดีนั้น พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการ สภ.เทพา เปิดเผยว่า ในทางคดีมีการดำเนินคดี 2 ส่วนคดีที่แม่เข้าแจ้งความ ผอ. ในข้อหากระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ ซึ่งได้สอบปากคำแม่ไปส่วนหนึ่งแล้ว พร้อมกับให้นำหลักฐาน มามอบให้กับพนักงานสอบสวน บางส่วนแล้ว ส่วนตัวเด็ก ได้ส่งไปตรวจตั้งแต่วันแรก ที่โรงพยาบาลเทพา พร้อมทั้งได้มีการประสานทีมสหวิชีพ เพื่อร่วมกันสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งหากมีพยานหลักฐานชัดเจน ก็จะออกหมายเรียก ผอ. มารับทราบข้อกล่าว หา และหากไม่มาก็จะออกหมายเรียกต่อไป ซึ่งคดีนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

 

ส่วนอีกคดี คือเรื่องอาวุธปืน ให้ตำรวจที่ได้รับมอบอาวุธ และทำการตรวจยึดไว้เป็นผู้กล่าวหา และจะเรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม เบื้องต้น จากการตรวจสอบอาวุธปืนแล้ว เป็นปืนมีใบอนุญาตถูกต้อง โดยเป็นปืนของ ผอ. เอง ซึ่งเรื่องอาวุธปืนนั้นมีความผิดกรณีการพกพาอาวุธปืน เมื่อรวบรวมหลักฐานเสร็จก็จะเรียก ผอ. มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม อีก 1 คดี ซึ่งทั้งสองคดี ผู้ถูกกล่าวหา สามารถติดต่อมอบตัว กับพนักงานสอบสวนได้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจได้

ส่วนเรื่องคลิป ที่มีการแพร่ออกมาสื่อโซเชียล และมีการเขียนเชื่อมโยงคดีนี้ ได้สอบถามไปยังผู้เสียหายไปแล้ว ทราบไม่เคยถ่ายคลิปในลักษณะดังกล่าว จึงฝากเตือนไปยังผู้ที่นำมาแชร์ต่อหรือแชร์ต่อคลิปนี้ จะเข้าข่ายความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เสียหายสามารถแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมได้

ผอ.โรงเรียน หน้าโรงเรียน

 

โรงเรียนหยุดอีก1วันเพื่อให้นักเรียนผ่อนคลายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปติดตามบรรยากาศที่โรงเรียนที่เกิดเหต ใน อ.เทพา จ.สงขลา พบว่าในวันนี้ทางโรงเรียนได้หยุดการเรียนอีก 1 วัน และจะไปเปิดอีกครั้งในวันจันทร์ แต่ในส่วนของครู และบุคลากรทางการศึกษา ยังคงมาทำงานตามปกติ

นายบรรจบ พิสุทธิพันธุ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ และรักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ที่ต้องหยุดเรียนอีก 1 วัน เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้ผ่อนคลายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งกระทบกับสภาพจิตใจของเด็กนักเรียน ส่วนครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่มีปัญหาทุกคนยังมีกำลังใจดี

แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบการระบบการเรียนการสอนและการสอบกลางภาพเพราะทางโรงเรียนได้เตรียมแผนการเรียนการสอนและการสอบไว้แล้วตั้งแต่ช่วงโควิด19 ที่ผ่านโดยให้นักเรียนสอบออนไลน์กลางภาคและเรียนออนไลน์แทน

ส่วนเรื่องผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นทางสำนักงานเขตจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบ

ส่วนเรื่องเมื่อวานนี้ซึ่งตนอยู่ในเหตุการณ์และเป็นคนที่เข้าไปประชิดตัวผอ.ยืนยันว่าไม่ได้มีการชักปืนออกมาแต่อย่างใดเพียงแต่ปลดกระดุมเสื้อโชว์อาวุธปืนเท่านั้น ส่วนตัวผอ.ขณะนี้ทราบว่าได้อยู่กับครอบครัวเพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้น

ส่วนกรณีที่มีการแชร์ภาพวิดีโอคอลในโซเชียลระหว่างชายคนหนึ่งกับเด็กนั้นเรื่องนี้ยังไม่เห็นและไม่ทราบรายละเอียด

 

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 เผยคดีผอ.ฉาว ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน

ล่าสุด พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการสอบสวนซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานรวมทั้งผลตรวจจากโรงพยาบาลว่าเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ และให้ทีมสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงเรื่องของอาวุธปืน ซึ่งได้ดำเนินคดีเช่นกันในข้อหาพกพา ซึ่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ส่วนในพื้นที่มีรายงานว่าในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกพ่อของเด็กเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมรวมทั้งแม่ก็ได้นำหลักฐานไปมอบให้กับตำรวจซึ่งเป็นเช็ตข้อความระหว่างผอ.กับผู้เสียหาย และมีการนำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดต่างๆที่เคยพบกับผอ.อีกด้วยแต่ไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียดว่าที่ใดบ้าง

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของผู้เสียหายเพื่อยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาทั้งตัวเด็กและครอบครัว รวมทั้งมีการจัดนักจิตวิทยามาดูแลสภาพจิตใจของเด็ก ที่เป็นผู้เสียหายซึ่งสำคัญที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่แม่จะเข้าแจ้งความทั้งพ่อและแม่รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เคยเข้าไปคุยกับผอ.มาแล้วครั้งหนึ่งโดยเฉพาะผู้เป็นพ่อซึ่งพูดกับผอ.แบบลูกผู้ชายว่าทำจริงหรือไม่ หากยอมรับผิดก็ขอเพียงแค่ให้ผอ.ลาออกจากโรงเรียนและออกจากพื้นที่อำเภอเทพาไปเท่านั้นไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ผอ.ก็ไม่ยอมยืนกรานว่าไม่ได้ทำและเป็นคนดี สุดท้ายแม่ของเด็กจึงต้องแจ้งความเพื่อดำเนินคดี

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube