ผอ.ชักปืนทราบข้อกล่าวหายื่น5แสนประกันตัวแล้ว
ผอ.ชักปืนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและได้รับการประกันตัวออกไป ใช้เงินสด 5 แสนบาท ขณะเจ้าตัวยืนยันในความบริสุทธิ์
ผู้อำนวยการโรงเรียนที่กำลังเป็นข่าวได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เทพา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยได้ถูกแจ้งดำเนินคดีใน 4 ข้อหา คือ กระทำชำเราเด็ก, พรากผู้เยาว์,กระทำอนาจารและ พกพาอาวุธปืน ก่อนที่จะได้รับการ ประกันตัว ออกไปทัน โดยใช้ตำแหน่งทางราชการของบุคคลอื่นค้ำประกันแทนเงินสด ซึ่งมีวงเงินค้ำประกัน 5 แสนบาท
หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผู้อำนวยการคนดังกล่าวได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่ถูกแม่เด็กเข้าแจ้งความนั้นตนไม่ทราบเพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ตนก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเพื่อให้ตัวเองได้รับความยุติธรรม แต่ถ้าข่าวที่ออกมาทำให้เขาได้รับความเสียหายตนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือแต่อยากให้สังคมมีสติในการบริโภคข่าวสาร ควรให้ได้รายละเอียดครบทุกด้านว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก่อนที่จะตัดสินว่าใครผิดที่ผ่านมาตลอด 30 ปีของการรับราชการ ตนทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถมาตลอดไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย และคิดเสมอว่าลูกๆนักเรียนเป็นแก้วตาดวงใจเหมือนลูกตัวเอง และการที่ตนยื่นใบลาออกไปก่อนหน้านี้เพราะมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตนเป็นคนมีระเบียบวินัยเป็นคนดีของสังคมและรับไม่ได้กับเรื่องนี้และพร้อมที่จะกลับมาเป็นประชาชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าชักปืนหน้าเสาธงผู้อำนวยการกล่าวว่าความที่ไม่เคยชินกับการเสียบปืนไว้ที่เอว พอยืนพูดนานๆทำให้รู้สึกอึดอัดและลื่นและกางเกงของตนก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเสียบปืน พอขยับเด็กจึงเห็นและเกิดการแตกตื่นขึ้นมา เป็นการเข้าใจผิด ตนไม่เคยคิดร้ายใครโดยเฉพาะนักเรียน
ผลสอบ ผอ.โรงเรียนดังสงขลามีเรื่องฉาวกับนักเรียนหญิงม.3 พบมีมูลความผิดร้ายแรง และให้ออกจากราชการ
ความคืบหน้ากรณี ผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.สงขลา โชว์อาวุธปืนออกมาหน้าเสาธงจากปัญหาส่วนตัวที่มีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงม.3 หลังจากที่ถูกแม่เด็กได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เทพาล่าสุดในส่วนของผลการสอบสวนทางวินัย นายศังกร รักชูชื่น ผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต16 เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่ามีมูลกระทำความผิดร้ายแรงและได้ส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการจังหวัดเรียบร้อยแล้วเบื้องต้นทางศึกษาธิการจังหวัดได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว และการที่ผู้อำนวยการได้ยื่นใบลาออกก็ไม่มีผลเพราะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วและหลังจากนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดสงขลาจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกรอบเพื่อรับฟังข้อมูลทั้งจากผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้เสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
หากสุดท้ายแล้วพบว่ามีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงจริงก็จะมีความผิดสูงสุดถึงขั้นไล่ออกและให้ออกโดยโทษไล่ออกเป็นโทษทางวินัยสูงสุดไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญส่วนโทษให้ออกยังคงได้รับบำเหน็จบำนาญ
นายศังกร กล่าวว่า การสอบสวนทางวินัยกรณีนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการตั้งศูนย์ป้องกันการละเมิดนักเรียน ซึ่งเป็นมาตรการปราบปราม คือเริ่มจากให้ย้ายมาประจำที่เขต ตั้งกรรมการสอบสวน แล้วส่งผลสอบให้ศึกษาธิการจังหวัดสงขลาพิจารณาข้อเท็จจริงและออกคำสั่งลงโทษทางวินัย
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการสภ.เทพา เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้อำนวยการเพิ่มเติมรวมเป็น4 ข้อหา คือ กระทำชำเราเด็ก พรากผู้เยาว์ พกพาอาวุธปืนและข้อหาล่าสุดคือกระทำอณาจาร และทีมสหวิชาชีพได้สอบปากคำเด็กเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงออกหมายเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนเทพามารับทราบข้อกล่าวหา หรือเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news