ผู้ว่าฯ ถกแก้ภูทับเบิกสั่งเร่งจดแจ้งรีสอร์ตไม่เป็นโรงแรม
ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ถกแก้ภูทับเบิก สั่งเร่งจดแจ้งรีสอร์ตไม่เป็นโรงแรม สำรวจคน – แปลงให้เป็นปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ คณะทํางานศูนย์ปฏิบัติการตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิกในพื้นที่ตําบลวังบาลและตําบลบ้านเนิน อําเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ และคณะกรรมการการดําเนินการตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิกจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 2/2565
โดยนายกฤษณ์คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธาน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ดังกล่าว โดยที่ประชุมนอกจากจะติดตามการดำเนินการตามแผนแม่บทแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก ปี 2560-2565 ยังให้ประสานกระทรวง พม.เร่งรัดการขอใช้พื้นที่กรมป่าไม้ การขอขยายระยะเวลาแผนแม่บทฯ และพิจารณาการขอเปลี่ยนแปลงพื้นที่ตามแผนแม่บทฯจากเดิม 7,881 ไร่เป็น 21,899 ไร่ ตามที่ราษฎรในพื้นที่ภูทับเบิกร้องขอและอยู่อาศัยจริง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการพิจารณาให้ทาง พม.จังหวัดจัดทำบัญชีแยกประเภทการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของราษฎร 3 ประเภท คือ คนเดิม(ม้งเดิม)พื้นที่เดิม, คนเดิม(ม้งเดิม)พื้นที่ใหม่, และคนใหม่(คนนอก)พื้นที่ใหม่ ฯลฯ ทั้งนี้นายกฤษณ์กล่าวช่วงเริ่มต้นการประชุมว่า จุดประสงค์ใหญ่ของการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิกคือ ให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้และรักษาทรัพยากรของประเทศชาติไว้ให้คงอยู่ จึงต้องพยายามประสานให้สองส่วนไปด้วยกันได้ จะเลือกส่วนใดส่วนหนึ่งคิดว่าจะเป็นเรื่องลำบาก ที่จะแก้ปัญหาโดยสภาพสังคมแบบนี้ จึงให้ช่วยระดมความคิดเห็นและข้อกฏหมายต่างๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาบรรลุไปด้วยดี
อย่างไรก็ตามก่อนปิดการประชุมนายกฤษณ์ได้สั่งการโดยสรุป 1.ให้นายอำเภอหล่มเก่าสำรวจและจดแจ้งผู้ประกอบการที่ยกเว้น พรบ.โรงแรม มีห้องไม่เกิน 4 ห้องพักไม่เกิน 20 คน
ตามที่มีการจดแจ้งแล้วให้รีบรายงานจังหวัด 2. พม.จังหวัดประสานกับอำเภอหล่มเก่า ในการสำรวจคนสำรวจแปลงให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันที่สุด 3. อบต.บ้านเนินและอบต.วังบาล ซึ่งทั้ง 2 อบต.มีช่างอยู่แล้วให้ตรวจแนะนำและให้กำหนดเวลา หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนเวลาให้รายงานมาทางโยธาฯ
ในฐานะ 1 ในเจ้าหน้าที่ให้รวบรวมและนำเข้าคณะกรรมการแก้ไขภูทับเบิก เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป 4.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก (สจป.ที่ 4 พิษณุโลก) ในฐานะพนักงานตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559 และเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ตรงนี้ ให้ตรวจจับผู้บุกรุกรายใหม่ตามอำนาจหน้าที่ และมีอำนาจรื้อตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559 อยู่แล้ว เพราะมีอำนาจรื้อเดี่ยวอยู่แล้ว หากเหลือบ่ากว่าแรงให้ขอมาที่คณะกรรมการที่เหลือ
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการประชุม นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก (ผอ.สจป.ที่ 4 พิษณุโลก) กล่าวรายงานถึงกรณีนำคณะเข้าตรวจสอบพื้นที่ภูทับเบิกเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา จนถูกกลุ่มผู้ประกอบการชาวม้งปิดถนนบนภูทับเบิกเพื่อเจรจาต่อรอง โดยนายทรงศักดิ์ระบุว่า ตามที่จังหวัดสั่งให้ป่าไม้ตรวจสอบจับกุมดำเนินดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ใหม่คนใหม่ ประกอบกับข่าวมีรีสอร์ตรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงประสานกับทาง พม.จังหวัด, กรอ.จังหวัด, ปลัดอำเภอ ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ภูทับเบิก
นายทรงศักดิ์กล่าวอีกว่า จากการนำข้อมูลมาดูกันปรากฎว่า มีการรับจดแจ้งจากสถานประกอบการที่ไม่ใช่โรงแรมจำนวน ณ ตอนนั้นมี 320 ราย ซึ่งข้อมูลของ พม.มี 55 ราย ทางปลัดอำเภอแจ้งว่า การรับแจ้งไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัยความมั่นคงแข็งแรง เพราะไม่มีช่างโยธา และไม่มีการคัดกรองว่าเป็นม้งเดิมหรือคนนอกพื้นที่ อันนี้คือปัญหาที่มีรีสอร์ตเพิ่มขึ้น จากนั้นช่วงบ่ายจึงเดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่จริง เพราะหลายแห่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความรีบร้อน ทำให้โครงสร้างไม่มั่นคงปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม ปิดกั้นขวางทางน้ำ เสี่ยงต่อการพังทลายของดิน เพราะส่วนใหญ่รีสอร์ตไปสร้างบนชะง่อนผา เพื่อชมวิวชมหมอกเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยวและประชาชน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews