ประธานสันนิบาตเทศบาลโคราช เผย334 แห่ง เห็นด้วยกับภูเก็ต อยากขอปกครองตนเอง เลือกตั้งผู้ว่าฯ จัดเก็บภาษีเข้าท้องถิ่นโดยตรง
นายคมกฤษณ์ ลิ้มปัญญาเลิศ นายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง และประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.65 คณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดสัมมนา “ทิศทางการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้มีเสียงเรียกร้องขอปกครองตนเอง เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด
และเก็บภาษีเข้าท้องถิ่นโดยตรง เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่จังหวัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั้น ตนเองเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศก็อยากให้มีการกระจายอำนาจออกจากส่วนกลางสู่แต่ละพื้นที่จังหวัดเช่นกัน โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่นจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ถึง 32 อำเภอ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่มากถึง 334 แห่ง โดยแบ่งออกเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง
เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 4 แห่ง เทศบาลตำบล 85 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 243 แห่ง แต่การมีผู้ว่าราชการที่มาจากการแต่งตั้งจากส่วนกลาง ไม่ได้ตอบสนองต่อการบริหารจัดการพื้นที่นัก อีกทั้งการจัดเก็บภาษีส่งส่วนกลางก็ทำให้งบประมาณไปอยู่ส่วนกลางหมด ในพื้นที่จะพัฒนาอะไรก็ต้องรออนุมัติงบประมาณจากส่วนกลาง เพราะเป็นการบริหารแบบรวมศูนย์อยู่ส่วนกลาง ไม่สอดคล้องกับการกระจายอำนาจที่แท้จริง
ทั้งที่จังหวัดนครราชสีมานั้น มีศักยภาพมาก ทั้งด้านภูมิศาสตร์และประชากร ที่มีประชากรอยู่กว่า 2.6 ล้านคน หากรวมประชากรแฝงอีกก็กว่า 3 ล้านคน ซึ่งควรที่จะกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมีอิสระในการได้จัดเก็บภาษีเพื่อมาบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่ของตนเองได้ ถ้าการพัฒนาท้องถิ่นต้องไปอยู่ในมือของข้าราชการจากส่วนกลาง จะทำให้การพัฒนาเกิดความล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ และไม่ตรงตามความต้องการของแต่ละพื้นที่แน่นอน ส่วนเรื่องการตรวจสอบการทำงานของแต่ละท้องถิ่น ก็มีหน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบอยู่แล้ว เช่น สตง. และ ปปช. เป็นต้น ใครผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.นครราชสีมา เรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจมาโดยตลอด
เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ ควรที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ได้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากเสียงของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ไม่ใช่มาจากการแต่งตั้งของส่วนกลาง ซึ่งไม่ยึดโยงกับประชาชนในพื้นที่แม้แต่น้อย ส่วนเมื่อได้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้งแล้ว การปกครองตนเองในจังหวัด ก็อาจจะออกกฎหมายให้สอดคล้องแต่ละพื้นที่ เช่น การปกครองในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ อาจจะให้แต่ละอำเภอมีอยู่แค่ 1 เทศบาล โดยยุบ อบต. และเทศบาลต่างๆ ให้เป็น สท.เขต แล้วให้นายกเทศมนตรีต่างๆ ขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการ และการพัฒนาพื้นที่จังหวัดมีความรวดเร็ว คล่องตัวสูง และมีประสิทธิภาพกว่าปัจจุบันแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
