ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สั่งเชือดผู้ลักลอบเผาที่โล่งทำค่าฝุ่นละออง PM2.5พุ่ง สั่งคุก 1 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้รับรายงานจากการเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านมลพิษทางอาการ PM2.5 ในพื้นที่ก็พบว่ายังคงมีประชาชนบางส่วน ยังคงมีการจุดหรือเผาทำลายเศษวัชพืช เช่นตอซังข้าว ไร่อ้อยจึงจำเป็นต้องออกมาตราการเข้มเน้นย้ำและต้องหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการเตือน ให้กับประชาชนได้รับทราบ ถึงข้อเสียและผลกระทบที่จะได้รับ ซึ่งต้องบอกได้เลยว่า “ ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน “โดยมีตัวอย่างในการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดแล้วในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
โดยล่าสุด (18 ก.พ.64 ) ที่ผ่านมา ทางด้านนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอจัตุรัส ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หนองบัวโคก เทศบาลหนองบัวโคก ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเผาป่า ริมถนนหมายเลข 201 บริเวณแผงขายผลไม้ ต.หนองบัวโคก จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เป็นการเผาอ้อย ซึ่งไร่อ้อยเป็นของนายทองมี (นามสมมุติ) เป็นชาว อ.ด่านขุนทด ซึ่งมาทำไร่อ้อยในพื้นที่อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จากการให้ข้อมูลของชาวบ้านในพื้นที่ข้างเคียง เกิดไฟไหม้ จากที่การเผาไร่อ้อย จึงได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นข้อมูลจึงส่ง จนท.ลงพื้นที่ในที่เกิดเหตุพบหลักฐาน ก่อนที่จะประสานกับผู้นำในพื้นที่นำตัวเจ้าของไร่อ้อยดั่งกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา
ล่าสุดพ.ต.อ.พงศ์ชิต พุ่มชุมพล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองบัวโคก และเจ้าหน้าที่ ปกครองนำตัวผู้ก่อเหตุเผาไร่อ้อยดังกล่าวมาจำนวน 2 คน ได้แก่ นายทองมี (นามสมมุติ) อายุ 73 ปี และนางสม (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี (บุตรสาว) ทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้เผาอ้อยในพื้นที่ไร่ของตน จึงได้ดำเนินการปรับผู้ก่อเหตุทั้งสองราย ตามประมวลกฎหมายที่มีความผิดอาญา มีโทษตั้งแต่จำคุก 1 เดือน ถึง 7 ปี หรือสั่งปรับตั้งแต่ 2,000 – 14,000 บาท จากนั้นได้ว่ากล่าวตักเตือนในเบื้องต้นเพื่อไม่ให้ก่อเหตุดังกล่าวอีก ทั้งยังฝากสารจากพ่อเมืองไปถึงผู้คิดที่จะเผาในที่โล่งแจ้ง ซึ่งจะก่อให้เกิด ผลกระทบทางมลพิษทำให้เกิดค่า PM 2.5 พุ่งมากขึ้น ให้เลิกคิดเพราะต่อจากนี้ไปทางจนท.จะเข้มงวดโดยการใช้กฎหมายบังคับและอาจจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาหนักอีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news