อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้ นทท.ต่างชาติเข้าไทยมากขึ้น เร่งเดินหน้ามาตรการป้องกันโควิด-19 รณรงค์ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงในชุมชน
ที่วัดหนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และการให้แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody : LAAB)
ซึ่งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา และสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว หรือ “LAAB” ให้กับกลุ่มเปราะบาง 608 ใน 4 ชุมชนของเทศบาลนครราชสีมา ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประประเทศขณะนี้ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
โดยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มีจำนวนลดลงมากกว่าครึ่ง และมีผู้เสียชีวิต เฉลี่ยอยู่ที่ 8 รายต่อวัน โดยส่วนใหญ่ ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นกลุ่ม 608 ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ
ดังนั้น การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบอย่างน้อย 4 เข็ม จะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงจากอาการเจ็บป่วยของโรคได้ และยังลดอัตราการเสียชีวิตหากมีการตรวจพบเชื้อ ซึ่งหลังจากประเทศไทยได้เปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8-9 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน และประเทศเพื่อนบ้านที่เปิดประเทศแล้ว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กรมควบคุมโรค ตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ และเฝ้าระวังโรคกันอย่างเข้มงวด
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง 608 ให้สาธารณสุขจัดเตรียมแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวสำรองไว้ให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ทันทีหลังฉีด ซึ่งกลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ผู้ปลูกถ่ายอวัยวะหรือไขกระดูกสันหลังที่ได้รับยากดภูมิ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรเดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวโดยเร็ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด19 ให้กับตนเอง ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน หรือผู้ที่ฉีดเข็ม 3-4 มาเกิน 4 เดือนแล้ว ให้มา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews