‘ไทยศรีวิไลย์’ ประเดิมแอ่วเหนือ ลงพื้นที่ จ.ลำปาง เป็นที่แรก พร้อมนั่งรถม้าเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ครบทั้ง 4 เขต อ้อนให้โอกาสพัฒนาลำปางให้เป็นคู่แฝดเชียงใหม่
‘ภคอร’ ชื่นชม ‘พี่เต้’ ลาออกจาก ส.ส. เป็นการตัดสินใจที่น่ายกย่อง ปลื้มใจคนลำปางให้กำลังใจขอให้กลับมาในสภา พร้อมย้ำต้องดันเงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกหากต้องการให้ร่วมรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา-พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคฯ
นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกพรรคฯ นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,ดร.อนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ จ.ลำปาง
โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ เริ่มต้นลงพื้นที่ตลาดเก๊าจาว ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าทั้งของคนพื้นเมืองและคนต่างถิ่น ที่เข้ามาค้าขายจากการเดินทางทางรถไฟ ตั้งแต่สมัยโบราณ จนปัจจุบันตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดเช้าที่มีบรรดาผู้สูงอายุ หรือที่เรียกกันในภาษาเหนือว่า พ่ออุ๊ย แม่อุ๊ย ต่างจับจ่ายซื้อหาผักพื้นบ้าน เช่น เห็ดแป้ง เห็ดดิน เห็ดถอบ จิ๊กกุ่ง อาหารเมือง
อาทิ แกงฮังเล แกงอ่อม แกงแค แกงผักกาด เป็นต้น ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ต่อมา ได้เดินทางไปยังศาลหลักเมืองลำปาง โดยตั้งอยู่ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ซึ่งปัจจุบันได้ทำเป็น มิวเซียมลำปาง เพื่อมากราบไหว้สักการะ และขอพรให้พรรคไทยศรีวิไลย์ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้
จากนั้น ได้เดินไปยังสุสานไตรลักษณ์ เพื่อมากราบนมัสการ หลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งเป็นพระมหาเถราจารย์ปูชนียบุคคลรูปหนึ่งของประเทศไทย และมีผู้ให้ความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน หลังจากนั้น นายมงคลกิตติ์และคณะ ได้นั่งรถม้าขึ้นหาเสียงไปรอบๆ เขตเทศบาลนครลำปาง พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 เขต ได้แก่ นายสายันต์ ใหม่ทา อาชีพทนายความ เขต 1 (อ.เมือง)
นายจรัสรัตน์ ทัศนา เขต 2 (อ.เมือง, อ.ห้างฉัตร , อ.เมืองปาน, อ.แจ้ห่ม, อ.วังเหนือ) นางปทิตตา อารักษ์ เขต 3 (อ.เมือง, อ.งาว,อ.แม่เมาะ,อ.แม่ทะ) และนายสะอาด สำเรืองจิตร์ อดีตนายก อบต.ลำปางหลวง เขต 4 (อ.เกาะคา,อ.เสริมงาม,อ.สบปราบ,อ.เถิน,อ.แม่พริก)
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากนั้น ในช่วงบ่าย นายมงคลกิตติ์และคณะ ได้เดินทางมายัง อ.เกาะคา เพื่อมากราบสักการะพระธาตุลำปางหลวง ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ และวัดพระธาตุลำปางหลวง ถือเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย เช่น วิหารหลวง วิหารพระพุทธ วิหารพระเจ้าศิลา เป็นต้น ต่อมา ไปเดินทางไปยัง ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
เพื่อดำเนินการประชุมเพื่อคัดเลือกตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ใน จ.ลำปาง โดยผลการประชุมปรากฏว่า นางสาวคนึงนิจ พูลเจริญศิลป์ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ประจำจังหวัดลำปาง และในช่วงเย็น พรรคไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ กาดกองต้า ซึ่งเป็นตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ มีมนต์เสน่ห์เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม อาคารเก่าแก่ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกและจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่มาเที่ยวกาดกองต้า ต่างมาทักทายและขอถ่ายรูปกับนายมงคลกิตติ์และคณะเป็นจำนวนมาก
โดย นางสาวภคอร กล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.ลำปาง ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นายมงคลกิตติ์ ลงพื้นที่ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีตำแหน่ง ส.ส. นำหน้า ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ดีและควรยกย่อง เพราะหลายๆ คน มักจะหวงตำแหน่ง ส.ส. ไปจนถึงวันเลือกตั้ง ถึงแม้ว่าจะเติมคำว่า ‘อดีต’ ตัวเล็กๆ ไว้หน้า ส.ส. ก็ตาม แต่ก็ว่าเป็นการเอาเปรียบผู้สมัครรายอื่นๆ
ในการแข่งขันเป็นอย่างมาก ดังนั้น การที่นายมงคลกิตติ์ ประกาศลาออกเพื่อมาขอคะแนนเสียงคนไทยทั้งประเทศในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ แสดงให้เห็นว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ต้องการจะเดินไปหาประชาชนในสถานะที่เท่าเทียมกัน คือเป็นประชาชนคนไทยที่มีความตั้งใจที่อยากให้บ้านเมืองของเราดีขึ้น ไม่อยากให้มีอำนาจนอกระบบมาปล้นเจตจำนงทางการเมืองของคนไทย
รวมทั้ง ไม่อยากให้ใครมาก่อหนี้สินให้กับประเทศชาติ ที่คาดกันว่าใช้กันข้ามชาติก็ยังไม่หมดสิ้นไป เพราะฉะนั้น ทางพรรคไทยศรีวิไลย์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกหนึ่ง ที่ประชาชนสามารถลงคะแนนได้อย่างมั่นใจ โดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวหรือเกรงใจใครๆ ที่ใช้วิชามารทำการบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน ส่งผลให้ ได้ ส.ส. ที่ไม่ได้เกิดจากประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศมานักต่อนักแล้ว
นางสาวภคอร กล่าวอีกว่า ในการลงพื้นที่ลำปางคราวนี้ มีประชาชนจำนวนมาก ต่างให้กำลังนายมงคลกิตติ์ และทางพรรคฯ โดยอวยชัยให้พรขอให้ นายมงคลกิตติ์ ได้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนในสภา และขอให้ได้ ส.ส.เข้ามาในสภาเยอะๆ เพราะเห็นว่า บทบาทของพรรคไทยศรีวิไลย์ในการทำหน้าที่ ส.ส. และหน้าที่นอกสภาที่ช่วยเหลือประชาชนเข้าตาเป็นอย่างมาก รวมทั้ง นโยบายต่างๆ ที่ได้นำเสนอออกไปนั้น ก็ได้รับความสนใจและสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า ทุกนโยบายของพรรคฯ
ได้กลั่นกรองมาจากสมองและหัวใจที่อยากให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และขณะนี้ เราใช้สองเท้าเดินเข้าหาประชาชน เพื่อใช้สองมือและหนึ่งปากช่วยฝากนโยบายของทางพรรคฯ ให้พิจารณา เพื่อให้ประชาชนมอบโอกาสให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ลงมือทำให้ทุกนโยบายเห็นผลสำเร็จภายใน 4 ปีนับจากนี้ โดยเฉพาะเงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก เพราะที่ จ.ลำปาง มีหน่วยทหารและพี่ๆ ทหารผ่านศึกเป็นจำนวนมาก ที่ยังคงรอคอยความหวังตรงนี้ ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์ก็ได้กำหนดเป็นเงื่อนไขเด็ดขาดว่า
หากไม่ทำเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องมาชวนให้ไปเป็นรัฐบาล เพราะรู้สึกว่า หากไปร่วมรัฐบาลเฉยๆ โดยไม่ผลักดันอะไรให้ประชาชนได้ประโยชน์เลยก็ไม่สมควรที่จะเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนฝากความหวังได้ และเรื่องนี้ได้ดำเนินการคืบหน้ามาพอสมควรแล้ว จึงต้องการอยากจะสานต่อให้พี่ๆ ทหารผ่านศึกทุกคนได้ภาคภูมิใจว่า พรรคการเมืองที่หวังดีกับทหารอย่างแท้จริง ก็คือพรรคไทยศรีวิไลย์
ไม่ใช่พรรคการเมืองที่มีสารพัดนายทหารมาเป็นแกนนำ โดยจะทำเพื่อจุดประสงค์เดียวคือการให้ ‘นาย’ ของตัวเอง กลับเข้าไปเสวยอำนาจบนความทุกข์ยากของพี่น้องทหารผ่านศึกทั้งประเทศ
“ในการลงพื้นที่คราวนี้ ดิฉันเห็นถึงศักยภาพของ จ.ลำปาง ในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา ธรรมชาติ อาหารการกินต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเทียบเท่ากับ จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีความเจริญสูงที่สุดในภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม ประชาชนต่างเข้ามาบอกว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นเลย และนักท่องเที่ยวก็ยังไม่ได้เข้ามาท่องเที่ยวใน จ.ลำปาง มากเหมือนแต่ก่อน
ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ จึงเห็นว่า การพัฒนา จ.ลำปาง ไม่ควรที่ให้เป็นเพียงแค่เมืองที่รองรับความเจริญจาก จ.เชียงใหม่ แต่ควรที่จะเป็นคู่แฝด ในทุกๆ ด้าน เพราะจะให้ศักยภาพของ จ.ลำปาง ได้รับการส่งเสริมพัฒนาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อยากจะขอโอกาสประชาชนชาวลำปาง ช่วยเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 คนของพรรคในพื้นที่ และเลือกคนที่มีผลงานอย่าง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เป็น ส.ส.รับใช้ประชาชนทั้งประเทศอีกครั้ง เพื่อที่จะได้นำนโยบายที่เขียนเอาไว้ในโบรชัวร์หาเสียง มาปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงกับประชาชนต่อไป” นางสาวภคอรกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews