Home
|
ภูมิภาค

‘ไทยศรีวิไลย์’ บุกเชียงราย สักการะ ‘เสาสะดือเมือง – พ่อขุนเม็งราย’

Featured Image
‘ไทยศรีวิไลย์’ บุกเชียงราย สักการะ ‘เสาสะดือเมือง – พ่อขุนเม็งราย’ เพื่อเป็นหลักชัยในการเลือกตั้ง พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย 5 เขต จาก 8 เขต – ‘กุ้งพลอย’ หวังเป้าหมายให้เป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมอ้อนขอให้เลือก ‘ไทยศรีวิไลย์’ เพื่อจะได้ติดตามโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” ให้เปิดได้ภายในปี 2571

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา-พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค พลโท กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคฯ นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ,

 

 

 

นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,ดร.อนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ จ.เชียงราย โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ เริ่มต้นลงพื้นที่ ต.รอบเวียง อ.เมือง เพื่อสักการะเสาสะดือเมือง (เสาหลักเมือง) เชียงราย โดยสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530

 

 

 

 

เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา หรือ 5 รอบ และเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพญาเม็งรายมหาราช ผู้ทรงสร้างเมืองเชียงรายเนื่องในวโรกาสการเฉลิมฉลองการสร้างเมืองเชียงรายครบ 725 ปี ซึ่งนายมงคลกิตติ์และคณะ ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลและถือเป็นหลักชัยในการปักธงให้พรรคไทยศรีวิไลย์ มี ส.ส. ในจังหวัดเชียงราย ต่อมา ไปเดินทางไปยัง หมู่ 4 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อคัดเลือกตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ใน จ. เชียงราย โดยผลการประชุมปรากฏว่า ว่าที่ร้อยตรีกิตติพัทธ์ เลี้ยงประเสริฐ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ประจำจังหวัดเชียงราย

 

 

 

 

พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ของพรรคฯ ทั้งหมด 5 เขต จากจำนวน ส.ส. 8 ที่นั่งของจ.เชียงราย ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรีกิตติพัทธ์ เลี้ยงประเสริฐ เขต 1 (อ.เมือง) นายธนพล วรรณรัก เขต 2 (อ.เมือง,อ.เวียงชัย,อ.เวียงเชียงรุ้ง) นางสมคิด มะโนวงศ์ เขต 3 (อ.แม่สรวย,อ.เวียงป่าเป้า,อ.แม่ลาว) นายบุญชาพล วงค์ชมภูทร เขต 5 (อ.เทิง,อ.ขุนตาล,อ.พญาเม็งราย) และ นายเจริญ มูลงาม เขต 7 (อ.แม่สาย, อ.แม่ฟ้าหลวง , อ.เชียงแสน) จากนั้น นายมงคลกิตติ์ คณะกรรมการบริหารพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 เขต

 

 

 

 

ได้สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เพื่อขอพรและเสริมสร้างกำลังให้กับพรรคไทยศรีวิไลย์ ในการเลือกตั้งที่กำลังมาถึงนี้ หลังจากนั้น ได้ลงพื้นที่ตลาดนัดคลองถมบ้านดู่เมืองใหม่ เพื่อพบปะทักทายประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด รวมทั้ง สอบถามถึงภาวะเศรษฐกิจกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด และได้ลองหั่นมะม่วงเปรี้ยวและปอกมะกอกภายในร้านเปรี้ยวปาก โดยมีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจและถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก

 

 

โดย นางสาวกนิษฐรินทร์ กล่าวว่า การที่พรรคไทยศรีวิไลย์ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมในการตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด รวมทั้ง ยังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภายในพื้นที่ต่างๆ ในภาคเหนือและพื้นที่อื่นๆ ยิ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่า เจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ในการดำเนินการเลือกตั้งของพรรคฯ คือ ‘ไม่ยุบ ไม่รวม ไม่ดูด ไม่ซื้อ’ สามารถดึงดูดใจให้ประชาชนคนธรรมดาที่มีใจรักในประชาธิปไตยและอยากให้บ้านเกิดของตัวเองมีการพัฒนา รวมทั้ง ต้องการให้ชีวิตของคนจังหวัดของเขาเองดีขึ้น ได้มาร่วมอุดมการณ์เป็นผู้สมัครของพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และสามารถทำหน้าที่ได้ทุกบทบาทในสภา เพราะฉะนั้น

 

 

ตนจึงอยากให้ประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย สนับสนุนพรรคไทยศรีวิไลย์ เพราะในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและได้ท้วงติงรัฐบาลในเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง โดยล่าสุด นายมงคลกิตติ์ ยังได้อภิปรายเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ล้มเหลว ไร้ซึ่งอนาคต และปล่อยให้ยาเสพติดทุกประเภทเต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่พรรคไทยศรีวิไลย์ จะต้องดำเนินการแก้ไขให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปโดยเร็ว จึงจำเป็นต้องขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยหวังว่า จะเพียงพอที่จะสามารถเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้าได้

 

 

“ในการลงพื้นที่เชียงรายครั้งนี้ นอกจากจะไปบอกนโยบายสำคัญๆ เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจทุกครัวเรือน โดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1.5 แสนบาท ทุกครัวเรือน ซึ่งเชื่อว่า เงินจำนวนนี้ อย่างน้อยๆ ถ้าพวกเขาได้เงินจำนวนนี้มา จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนทันที และหลังจากนั้น พวกเขาก็จะนำเงินตรงนี้ไปจ่ายหนี้สินหรือปลดเปลื้องภาระที่ผูกกับชีวิตเขามานานแสนนาน ซึ่งบางคนถือเป็นการปลดหนี้ และคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ การนำเงินที่รั่วไหลจากระบบเศรษฐกิจ

 

 

โดยเฉพาะผลประโยชน์จากอบายมุขต่างๆ ซึ่งที่เห็นของกลางการจับกุม เช่น รถหรู 40 ล้าน บ้านราคา 10 ล้านๆ นาฬิกาเรือนเป็นแสนๆ เป็นต้น หากมาแปลงเป็นเงินสวัสดิการให้กับกลุ่มเปราะบางต่างๆ แล้ว ก็สามารถช่วยเหลือได้ทันที เช่น คนชรา 12.1 ล้านคนๆ 5,000 บาท/เดือน คนพิการ 2 ล้านคนๆ 3,000 บาท/เดือน

 

 

รวมทั้ง การปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน ซึ่งทำลายทั้งชีวิตคนและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก และทางพรรคฯ จะนำเงินตรงนี้ไปเพิ่มเป็นสวัสดิการให้กับประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ ในสภาชุดปัจจุบัน พรรคไทยศรีวิไลย์ จะทำหน้าที่ในสภาจะเป็นฝ่ายค้านก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ประเภท ‘ค้านทุกเรื่อง’ เพราะเรื่องไหนที่ประชาชนคนไทยได้ประโยชน์ ทางพรรคฯ ก็สนับสนุน โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า หากโครงการประสบความสำเร็จสามารถเดินรถได้ ในปี พ.ศ. 2571 แล้ว จะสร้างรายได้จากการเดินรถและขนส่งสินค้านับแสนล้านบาท ทางพรรคไทยศรีวิไลย์ก็ได้ติดตามโครงการนี้มาโดยตลอด และเห็นว่าควรดำเนินโครงการทั้งหมดให้เสร็จตามกำหนด

 

 

ซึ่งเหลือเวลาอีก 4 – 5 ปี เพราะฉะนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็มีความคิดเหมือนกับคนเชียงรายคือ อยากให้เสร็จตามกำหนดเวลา โดยไม่มีปัญหาอุปสรรคและมีการทุจริตมาบั่นทอน ซึ่งพรรคฯ ก็ได้ส่งว่าที่ผู้สมัครฯ ที่จะขออาสาเป็นคนติดตามโครงการนี้ แทนคนเชียงรายทั้งหมด 5 เขต ดังนั้น ดิฉันหวังว่า คนเชียงรายจะให้โอกาสว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคไทยศรีวิไลย์ ในการช่วยกันดูแลการก่อสร้างตามโครงการดังกล่าว ให้เปิดเดินรถได้ภายในปี 2571 เพื่อป้องกันไม่ให้เงินแผ่นดิน รั่วไหลไปยังคนที่คิดคดทรยศต่อประเทศชาติและประชาชนด้วย” นางสาวกนิษฐรินทร์ กล่าว

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube