ชาวขอนแก่นช้อปเก่ง 4 โครงการรัฐ ทะลุ 4,697 ลบ. รั้งอันดับ 4 ประเทศที่มียอดการใช้จ่ายตามนโยบายฯสูงสุด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการใช้จ่ายของชาวขอนแก่นในโครงการเราชนะและคนละครึ่ง รวมไปถึงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและ เราเที่ยวด้วยกัน พบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปของ จ.ขอนแก่น เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ต่างเข้ามาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นร้านโชห่วยทั่วไป ร้านอาหาร ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ที่มีประชาชนมาใช้จ่ายผ่านระบบเป๋าตัง และ ถุงเงินกันตลอดทั้งวัน ซึ่งเหล่าบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ที่ให้บริการผ่านระบบสมาร์ทโฟน ต่างเข้าใจในระบบการรับชำระสินค้าในรูปแบบต่างๆ ตามที่ กระทรวงการคลังกำหนดอย่างคล่องตัว
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้การใช้จ่ายตามโครงการที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ใน 4 โครงการหลักที่ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ทั้งในส่วนของโครงการเราชนะ,คนละครึ่ง,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงกาเราเที่ยวด้วยกัน จะเห็นได้ว่าสร้างสภาพคล่องทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 26 อำเภออย่างมาก ซึ่งจากตัวเลขการใช้จ่ายที่สำนักงานคลังจังหวัดได้มีการสรุปผลการดำเนินงานถึงวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมาพบว่าขอนแก่นมียอดการใช้จ่ายในโครงการของรัฐ อยู่ในลำดับที่ 2 ของกลุ่มเมืองหลัก 22 จังหวัดและอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศ ที่มียอดการใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวสูงที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายที่รัฐบาลนั้นมาถูกทางและแก้ไขปัญหาปากท้องและฟื้นสภาพคล่องทางเศรษฐกิจใสระดับฐานรากได้อย่างชัดเจน
“โครงการคนละครึ่งที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2563 ถึงขณะนี้นั้นมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 26,787 ร้านค้า มียอดการใช้จ่ายรวม 1,662.20 ล้านบาท ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วย ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2563 ขอนแก่นเรามีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 118 ล้านบาท ขณะที่โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการเพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้ถือบัตรคนละ 500 บาทต่อเดือน ระยะที่1 ซึ่งเริ่มในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.2563 และระยะที่ / เริ่ม เดือน ม.ค.-มี.ค.2564 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ 423,779 ราย ยอดการใช้จ่ายรวม 211.53 ล้านบาท” ได้รับความนิยมจากชาวขอนแก่นอย่างมาก”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news