Home
|
ภูมิภาค

เทอร์มินอล21โคราชวางมาตรการเข้มตั้งเครื่องสแกน

Featured Image
ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช วางมาตรการเข้ม ตั้งเครื่องสแกนวัตถุระเบิด-ปืน ประตูทางเข้าห้างทุกจุด สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเด็กชายอายุ 14 ปี ควงอาวุธปืนพากสั้นขนาด 9 มม. ไล่กราดยิงประชาชน และนักท่องเที่ยว ภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกอีกครั้ง ซ้ำรอยเหตุการณ์จ่าคลั่ง ควงอาวุธสงคราม กราดยิงประชาชน ในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 ซึ่งขณะนั้นทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากถึง 31 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกนับร้อยราย กลายเป็นเหตุการณ์กราดยิงครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทยและของโลก

 

 

ล่าสุด วันนี้ (4 ตุลาคม 2566) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบว่ามีการวางมาตรการป้องกันความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ของห้างฯ นำเครื่องสแกนโลหะวัตถุระเบิดและอาวุธปืน มาติดตั้งตามจุดประตูทางเข้าทุกจุด รวม 7 จุด พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่จุดละ 3 นาย และมีเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสแกนโลหะแบบพกพา คอยสแกนกระเป๋าของประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาภายในห้างทุกคนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งภายในห้าง

 

 

 

จากการสอบถาม น.ส.สรารัตน์ อายุ 23 ปี หนึ่งในประชาชนที่มาเดินช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทราบข่าวเกิดเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร ตนเองก็ยังรู้สึกกังวลใจ และไม่ค่อยมั่นใจมากนักในการมาเดินห้าง แต่วันนี้มีความจำเป็นต้องมาทำธุระที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช

 

 

 

ซึ่งเป็นจุดที่เคยเกิดเหตุกราดยิงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ถึงอย่างไรก็ตามทางห้างฯ ก็ได้มีการวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด โดยการนำเครื่องสแกนวัตถุระเบิดและอาวุธปืนมาติดตั้งทุกจุดประตูทางเข้า ก็ทำให้มีความอุ่นใจในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ตนเองกังวลคือการป้องกันที่ปลายเหตุเช่นนี้ช่วยอะไรไม่ได้มาก ควรมีการวางมาตรการเรื่องกฎหมายครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวด เพราะทุกวันนี้บ้านเมืองเรามีคนครอบครองอาวุธปืนมากขึ้นต่อเนื่อง

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube