โคราช เปิดงานเที่ยวเพลิน เดินชมโคกกรวด วันวาน ครั้งที่ 4 ชมสถานีรถไฟทรงโปรตุเกสที่เดียวในไทย อายุ 126 ปี พร้อมชิมของดี ของอร่อย สูตรโบราณ ไชน่าทาวน์โคกกรวด
นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน “เที่ยวเพลิน เดินชมโคกกรวด วันวาน” ครั้งที่ 4 ที่บริเวณสถานีรถไฟโคกกรวด และพื้นที่เทศบาลตำบลโคกกรวด ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ
และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของหมู่บ้าน-ชุมชนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเผยแพร่ให้กว้างขวาง เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกจังหวัด
ทั้งนี้ ภายในงานประชาชนและนักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถไฟชมบรรยากาศตลอด 2 ข้างทาง จากสถานีรถไฟนครราชสีมา ถึงสถานีรถไฟโคกกรวด ซึ่งสถานีรถไฟโคกกรวด สร้างเป็นรูปทรงโปรตุเกส มีอายุเก่าแก่มากกว่า 126 ปี เหลือเพียง 2 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ สถานีรถไฟ ต.โคกกรวด และสถานีรถไฟ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ มีการการแสดงรำโทน
นิทรรศการ-พิพิธภัณฑ์ฅนโคกกรวดวันวาน การแสดงอุทยานเพลงเก่า และเยี่ยมชมการออกร้านจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ของดี ของอร่อย สูตรโบราณ ถ่ายภาพจุดเช็คอิน ไชน่าทาวน์โคกกรวด เยี่ยมชมโรงยาโบราณ โรงฝิ่น โรงถ่าน ภาพเก่าเล่าเรื่อง ภาพวาด 3 มิติ กราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไทย-จีนตั้งอยู่ข้างกันในวัดหนองหว้า ประกอบด้วย หลวงพ่อตึก ศาลเจ้าไทย-จีน และศาลเจ้าพ่อพระยากลาโหม ชมหนัง และการแสดงย้อนยุคบนเวที เป็นต้น
โดยนายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในอดีต ตำบลโคกกรวดมีความเจริญทางด้านการค้า ศิลปวัฒนธรรม เป็นจุดเชื่อมโยงการเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟ จากการสืบค้นประวัติสถานีรถไฟโคกกรวด พบว่า มีอายุราว 126 ปี และตลาดเก่าโคกกรวดอายุ 123 ปี ตำบลโคกกรวดจึงเป็นศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ มีความเจริญรุ่งเรือง มีแหล่งร้านค้า เป็นชุมชนที่มีชาวจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2500 รัฐบาลได้ประกาศให้ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย โรงฝิ่นจึงถูกรื้อถอนออกไป นอกจากนี้ ตำบลโคกกรวดยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางชุมชนที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและสังคม โดยชุมชนในท้องถิ่นมีจิตสำนึกต้องการอนุรักษ์สิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ทางการท่องเที่ยว และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยว ทำให้เกิดกิจกรรมและรายได้สู่ชุมชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews