ตำรวจโคราชหย่าศึกข้อพิพาทรังวัดที่ดินชาวบ้าน หวั่นเกิดเหตุร้ายรุนแรง หลังศาลสั่งรังวัดแล้ว 3 ครั้งหวิดมีเหตุปะทะกัน
วันนี้ (29 มีนาคม 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากนางประไพ อายุ 60 ปี จังหวัดนครราชสีมา ขอกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่รังวัดที่ดินพิพาท ซึ่งมีคำพิพากษาในคดีแพ่งซึ่งได้ฟ้องแบ่งแยกที่ดินตาม นส.3 เนื้อที่ 25 ไร่ เดิมเป็นที่ดินของนางแจง เพียงผู้เดียว แต่ภายหลังจากยืมเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท ตนได้ขอให้นางแจงฯ แบ่งที่ดินให้ตน 15 ไร่เพื่อทดแทนหนี้ แต่ก็ผัดผ่อนเรื่อยมาตนจึงให้ทนายฟ้องคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดพิมาย เพื่อขอให้มีการแบ่งแยกที่ดินและทำเป็นโฉนด
โดยศาลฯ มีคำพิพากษาให้ตนสามารถออกโฉนดได้ 15 ไร่ จาก 25 ไร่ และให้ทำทางสาธารณะร่วมกัน แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นนางแจงฯ และครอบครัวกลับไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่รังวัดจากของสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาจักราช ทำการรังวัด และบุกรุกเข้าไปในพื้นที่-ตัดต้นไม้, ทำลายหน้าดิน จนมีการแจ้งความดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้
กระทั่งวันที่ 28 มีนาคม 567 ที่ผ่านมา ผู้ร้องจึงได้ไปแจ้งเรื่องที่ สภ.ห้วยแถลง เข้าพบกับ พ.ต.อ อิษฎ์ บุญญะฤทธิ์ ผกก.สภ.ห้วยแถลงทราบเรื่อง จึงให้ความช่วยเหลือด้วยการมอบหมายให้ พ.ต.ท ปุญยพงศ์ เลิศมัลลิกาพร รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยแถลง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายลงพื้นที่เพื่ออำนวยการรังวัดและป้องกันภัย เมื่อไปถึงพื้นที่ข้อพิพาท มีการปะทะกันอีกเล็กน้อย แต่ พ.ต.ท ปุญยพงศ์ฯ สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงทำให้การรังวัดพื้นที่รอบแปลงจนแล้วเสร็จ โดยไม่มีสถานการณ์รุนแรงเพิ่มเติม
โดยนายสุพน ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว มีข้อพิพาทกันมาเป็นระยะเวลานาน ถึงแม้จะมีคำสั่งศาลฯ อย่างเด็ดขาดแล้ว ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของตน พร้อมมีคำสั่งศาลฯ ให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมาทำการรังวัดเพื่อออกโฉนด แต่ก็ยังคงไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากคู่กรณีไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลฯ จนต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมออกตรวจสอบการรังวัดเพื่อป้องกันเหตุ
พร้อมฝากเป็นกรณีตัวอย่างให้ผู้ที่จะทำการรังวัดที่ดินทุกแปลงที่เป็นข้อพิพาท ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมลงพื้นที่ป้องกันเหตุด้วย เผื่อมีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งในการรังวัดครั้งนี้โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ร่วมมาด้วย คู่กรณีจึงทำได้เพียงแค่นำร่างกายเข้าประทะเล็กน้อยก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ จนเหตุการณ์คลี่คลายลงได้โดยไม่มีเหตุรุนแรงเพิ่มเติม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
