โคราชPM2.5พุ่งเกินมาตรฐาน-อากาศร้อนจัดเตือนระวังฮีทสโตรก

โคราชค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน หลังร้อนจัดต่อเนื่อง มลพิษสะสมมากขึ้น กระทบต่อสุขภาพ ขณะที่จังหวัดประกาศห้ามเผา ย้ำ ปชช.ป้องกันตนเอง ระวังฮีทสโตรก

 

 

 

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พยากรณ์อากาศประจำวันว่า อิทธิพลของความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยอุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส

 

 

ซึ่งที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันนี้จะมีอุณหภูมิสูง สภาพอากาศร้อนจัดเกือบทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส และเช้าวันนี้ยังตรวจไม่พบกลุ่มฝน และคาดการณ์ลักษณะอากาศ 7 วัน ข้างหน้า พบว่า สภาพอากาศยังร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งตลอดช่วง โดยอุณหภูมิสูงสุด อยู่ที่ 38 – 42 องศาเซลเซียส

 

 

ซึ่งเมื่อตรวจวัดปริมาณฝุ่นมลพิษในอากาศของจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) โดยนายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการฯ ได้รายงานผลการตรวจวัด ผ่านแอพพลิเคชั่น Air4Thai ที่บริเวณสถานีสูบน้ำประตูพลแสน อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ได้ 44.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index) ซึ่งเป็นข้อมูลคุณภาพอากาศในภาพรวมที่ประกอบด้วยมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ตรวจวัดได้ 120 AQI ทั้งนี้ ค่าฝุ่นมลพิษในอากาศพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ มา 3 วันแล้ว และแม้ว่าขณะนี้คุณภาพอากาศจะอยู่ในระดับปานกลาง (สีส้ม) แต่ก็เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งนอกจากปัจจัยสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เกิดความร้อนสะสม

 

 

จนนำไปสู่การเกิดเกิดไฟป่าได้ง่ายแล้ว การลอบเผาพื้นที่ซากพืชผลในพื้นที่การเกษตร ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าฝุ่นมลพิษพุ่งสูงเกินมาตรฐานอย่างรวดเร็ว ทางจังหวัดได้ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นมลพิษทางอากาศ ทั้งการจัดการไฟในพื้นที่ป่า-พื้นที่เกษตรกรรม รวมถึง บูรณาการบังคับใช้กฎหมายภาคการจราจร และบังคับใช้กฎหมายผู้กระทำผิดลักลอบเผาในที่โล่ง เพื่อลดปริมาณฝุ่นมลพิษลงให้ได้โดยเร็ว

 

 

ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ ช่วงวันที่ 23-25 เมษายน 2567 ค่าฝุ่น PM 2.5 จะพุ่งสูงขึ้นอีก จากเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง เป็น สีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้น ประชาชนทั่วไปควร สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร และจำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ใช้อุปกรณ์ป้องกัน สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ .

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews