สภาพอากาศร้อนทะลุ 40 องศาส่งผลให้ทุเรียนที่กำลังติดผลในเขตพื้นที่อำเภอเสิงสาง สลัดผลทิ้งร่วง เป็นจำนวนมาก เกษตรกรเสียหายหนัก
จากสภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครราชสีมาร้อนทะลุ 40 องศาเซลเซียสติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง และไม่มีฝนตกเป็นเวลานาน ส่งผลให้พืชหลายชนิดที่ได้รับผลกระทบ จากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งโดยเฉพาะทุเรียน ที่บ้านดงเย็นหมู่ที่ 6 ตำบลเสิงสางอำเภอเสิงสางจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสางและเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลเสิงสาง ลงพื้นที่ตรวจสอบแปลงทุเรียนของเกษตรกร หลังจากพบมีผลผลิตทุเรียนภายในสวนของเกษตรกรนั้นร่วงหล่นเป็นจำนวนมากเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และแห้งแล้ง
โดยนายเฉลิม ปะกายะ อายุ 67ปี ชาวบ้านบ้านหนองไผ่น้อยหมู่ที่ 7 ตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เกษตรกรที่ปลูกทุเรียนในพื้นที่ 5 ไร่จำนวน 150 ต้น ทั้งหมดเป็นทุเรียนสายพันธุ์หมอนทอง อายุต้นที่ปลูก ไม่ต่ำกว่า 7 ปี บอกว่าในแต่ละปีนั้นทำทุเรียนไม่เคยยากเท่ากับปีนี้ในปีนี้ อากาศร้อนและแล้งมาก ทำให้ผลผลิตในสวน
ทุเรียนของตนเองนั้นล่วงเป็นจำนวนมาก บางต้นไม่มีลูกเหลือเลย ตนเองได้นำเครื่องยนต์ดีเซลมาสูบน้ำเพิ่มช่วยอีกแรงหนึ่งเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการน้ำของต้นทุเรียน แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ หากสภาพอากาศเป็นอย่างนี้คาดว่าผลผลิตที่ตั้งเป้าไว้จากปีที่แล้วน่าจะลดลง
ด้านนางอมรรัตน์ ขอนพุดทรา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการของสำนักงานเกษตร อำเภอเสิงสาง บอกว่า จากการลงพื้นที่สำรวจแปลงเกษตรของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ได้มีการตรวจสอบผลที่เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนและต้นทุนในการผลิตทุเรียนในปีนี้ พบว่าส่วนใหญ่นั้นเกิดจากปัญหาอากาศร้อนจัดและทำให้ความชื้นในอากาศ
บริเวณสวนนั้นลดน้อยลง ส่งผลให้ทุเรียนที่กำลังติดผลอยู่นั้นสลัดผลทุเรียน ร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก และการดูแลป้องกันทั้งเรื่องการให้น้ำการเพิ่มปริมาณน้ำทำให้เกษตรกรนั้นมีต้นทุนที่สูงขึ้นในการทำทุเรียนปีนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงมีการตรวจสอบและก็ให้คำแนะนำในการดูแล เบื้องต้นพร้อมจัดตั้งกลุ่มเครือข่ายการเกษตรกร ที่สามารถแก้ไขปัญหาทุเรียนหลุดร่วงได้ เข้าให้คำแนะนำ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
